กระผม/อาตมภาพดูแล้วว่าเนื้อของเธอค่อนข้างจะทึบ คล้าย ๆ กับเนื้อคนปกติ ถึงได้เชื่อว่าเป็นรุกขเทวดาหรือว่าเทวนารีที่บุญน้อยจริง ๆ จึงได้กล่าวว่า "ถ้าอย่างนั้น กุศลบารมีใดที่เราสมสร้างมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ จะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนาก็ตาม ขอเธอจงโมทนา เราจะได้รับประโยชน์และความสุขเท่าไร ขอให้เธอจงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด"
รุกขเทวีผู้นั้นยกมือสาธุโมทนา ร่างกายตลอดจนเครื่องประดับกลายเป็นแก้วสวยแพรวพราวระยับตา แล้วก็หายวับไปเลย..! ทำเอากระผม/อาตมภาพอึ้งอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ จดจำเอาไว้เป็นบทเรียนเลยว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้าจะรับบาตรก็ขอให้เธอใส่ก่อน เพราะว่าเธอต้องการบุญจึงมาขอใส่บาตร ในเมื่อได้บุญไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใส่บาตรก็ได้ แม่เจ้าประคุณก็ไปแน่บเลยทีเดียว
เรื่องพวกนี้เล่าให้คนอื่นฟังทีไรก็หัวเราะกันทุกครั้ง แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเจออย่างกระผม/อาตมภาพเข้าก็คงจะหัวเราะไม่ออก เนื่องเพราะว่ายังต้องเดินเข้าไปในหมู่บ้านอีกไกลกว่าที่จะได้รับบาตร เนื่องเพราะว่าคุณเธอมาดักรอบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน
เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า เทวดาทั้งหลายนั้นมักจะให้บทเรียนกับเราว่า ต้องมีความรอบคอบเสมอ อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ในการบวงสรวงไหว้ครูและเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งแรก ๆ ที่วัดท่าขนุน ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านให้เป่ายันต์เกราะเพชรได้ ก็เกิดความหนักใจขึ้นมา เนื่องเพราะว่าเป็นฤดูที่อากาศร้อนมาก จึงได้ขอบรรดาเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายว่า ขออย่าให้แดดร้อนและมีอากาศเย็น ถ้าเป็นไปได้ขอให้ฝนตกหนักในคืนก่อนงาน
เมื่อกระผม/อาตมภาพอธิษฐานขอแล้วก็สบายใจ เนื่องเพราะว่าถ้าพรหมเทวดาท่านรับปากแล้วก็เป็นไปตามนั้น แต่ว่าตอนบวงสรวงไหว้ครูก็ไม่เห็นจะมีฝนตกภายในคืนนั้น แล้วขณะเดียวกันแดดก็ร้อนเปรี้ยงแทบจะหัวแตก แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ออกจากวัดท่าขนุนกลับไปยังเกาะพระฤๅษี พระที่ท่านพักอยู่บอกว่า "เมื่อคืนฝนตกหนักมากครับอาจารย์ อากาศเย็นมาจนวันนี้เลย ยังไม่เห็นแดดแม้แต่นิดเดียว..!"
กระผม/อาตมภาพก็กลืนน้ำลายเอื๊อกว่า "กูพลาดอีกแล้ว" เนื่องเพราะขออย่างเดียว ไม่ได้ระบุว่าเป็นสถานที่ใด ท่านก็จัดให้เสียเต็มที่ตามที่ขอ ขณะเดียวกันก็ให้บทเรียนไว้ด้วยว่า "ต่อไปต้องรอบคอบมากกว่านี้..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-06-2024 เมื่อ 02:41
|