ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 06-06-2024, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,720
ได้ให้อนุโมทนา: 158,650
ได้รับอนุโมทนา 4,491,298 ครั้ง ใน 36,330 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ถ้าเราจดจำได้ก็เป็นสมบัติติดตัวเราไปตลอดชีวิต ปกติแล้วฤกษ์พรหมประสิทธิ์นั้น สมัยที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษี ฯ วัดท่าซุงท่านได้ให้เอาไว้ มีไม่ครบถ้วนอย่างที่กระผม/อาตมภาพว่ามา ท่านเองไปได้มาก็มีฤกษ์อยู่แค่ใบลานใบเดียว แล้วท่านก็อุตส่าห์เข้าหอสมุดแห่งชาติไปค้นคว้า หามาจนกระทั่งได้ครบ ๗ วัน

แต่เมื่อญาติโยมหรือพระมาถาม ท่านก็บอกเฉพาะฤกษ์นั้นบ้าง ฤกษ์นี้บ้าง แล้วโดยเฉพาะเมื่อกระผม/อาตมภาพมาศึกษาค้นคว้าจนครบถ้วนแล้ว เห็นท่านให้ฤกษ์บุคคลหนึ่งเป็นฤกษ์สมตน คือ เสมอตัว จึงกราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "ทำไมให้แค่ฤกษ์สมตนครับ ?" ท่านบอกว่า "บางคนสร้างบุญมาน้อย ของดีเกินบุญไม่ใช่ว่าจะดีสำหรับเขา ถ้าหากว่าเขาแบกข้าวสารได้ ๕๐ กิโลกรัม เราโยนข้าวสารกระสอบละ ๑๐๐ กิโลกรัมไปให้ก็โดนทับตาย..!"

ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพก็มาลังเลสงสัย เพราะว่าศึกษาฤกษ์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่เกี่ยวกับ "วันลาภ - วันชัย" เอาไว้ มาสงสัยว่าถ้าคนที่วันลาภหรือว่าวันชัย ตกวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำ แล้วจะทำอย่างไร ? เพราะท่านบอกว่าห้ามทำการมงคลใด ๆ นอกจากพุทธาภิเษก ?

เมื่อไปค้นคว้าถึงได้รู้ว่าแต่ละฤกษ์นั้นจะมีทั้ง อมฤตโชค มหาสิทธิโชค สิทธิโชค หรือว่าฤกษ์สมตน ฤกษ์กาลกิณี ฤกษ์มรณะ เป็นต้น ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็เว้นวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๕ ค่ำ ไปใช้วันเสาร์ ขึ้นหรือแรม ๑๕ ค่ำ หรือว่าขึ้นหรือแรม ๔ ค่ำแทนก็ได้ ใหม่ ๆ เมื่อค้นคว้ามาได้และนำไปเผยแพร่ ปรากฏว่าพระพี่พระน้องในวัดอยู่ในลักษณะที่ว่า "แอนตี้" ไม่ยอมรับ พูดง่าย ๆ ว่า "ครูบาอาจารย์ให้เท่าไร กูพอใจแค่นั้น" ซึ่งไม่ใช่สันดานของกระผม/อาตมภาพ

ถ้าท่านทั้งหลายได้ฟังเสียงธรรมตามสายของวัดท่าขนุนตลอดทุกวัน ก็จะได้ยินที่หลวงพ่อฤๅษี ฯ ท่านเล่าว่า ตอนท่านเรียนนักธรรมชั้นตรี คนอื่นถือหนังสือแค่ ๔ เล่ม แต่ของท่านเองแบกสามแบกยังไม่หมดเลย..! เพราะว่าใน ๔ เล่มนั้น อ้างถึงหนังสือเล่มไหน ท่านก็ไปค้นคว้ามาอ่านทั้งหมด ในเมื่อพ่อมีนิสัยช่างค้นคว้าขนาดนั้น ท่านอาจจะทิ้งปัญหาไว้ให้ ดูว่ามีลูกคนไหนจะค้นคว้าแบบท่านบ้าง ? แล้วก็อาจจะเป็นที่น่าเสียดายว่า มีกระผม/อาตมภาพไปไล่ค้นอยู่คนเดียว..!

แม้กระทั่งในเรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้านก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็มาคิดว่าในสมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มีนายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตร มีนายเฉลิม คงทอง เป็นตัวอย่างให้ท่านยกให้คนอื่นว่า ทำพระคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ขึ้น ก็คือทำแล้วร่ำรวย แล้วมายุคนี้สมัยนี้ พระท่านเพิ่มให้จนเป็นพระคาถาเงินล้านไปแล้ว จะไม่มีใครทำเป็นตัวอย่างเลยหรือ ? แล้วก็เกิดมานะขึ้นมาว่า "ในเมื่อไม่มีใครทำ เราก็ทำเสียเอง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 00:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา