วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๖ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันพระสิ้นเดือน แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เมื่อเช้ามืดได้รับอนุญาตจากพระท่าน ให้จัดงานบวงสรวงไหว้ครูเป่ายันต์เกราะเพชรได้ ซึ่งจะมีเสาร์ ๕ อีกครั้งหนึ่งประมาณเดือนกันยายนนี้ แล้วขณะเดียวกันก็ได้ขออนุญาตสร้างเหรียญนาคเกี้ยวกันภัยขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง สำหรับบรรดาท่านทั้งหลายที่จะร่วมบุญกฐินกับวัดท่าขนุน
คราวนี้ในส่วนหนึ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านเตือนเอาไว้ก็คือว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ภาวะสงครามจะรุนแรงขึ้น ก็แปลว่าเราท่านทั้งหลายถ้าเป็นนักบวช หน้าที่ของเราก็คือเจริญพระกรรมฐาน แผ่เมตตา ขอให้สัตว์โลกทั้งหลายอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ส่วนญาติโยมทั้งหลายก็ต้องภาวนาเพื่อตัวเอง ใครมีวัตถุมงคลที่มั่นใจ มีคาถาอาราธนาอย่างไร ก็ว่าเสียให้เต็มที่ไว้ทุกวัน..!
ส่วนเมื่อเช้านี้มีพระใหม่ลาสิกขา ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็แปลกใจว่าไม่มีใครแนะนำท่านเลยหรือว่า วันพระข้างแรมสิ้นเดือน โดยปกติแล้วไม่มีใครเขาทำกิจการงานอะไร ยิ่งโบราณแล้วยิ่งถือสามาก เพราะว่าเป็นวันเดือนขาด เป็นวันเดือนดับ แล้วขณะเดียวกันวันรุ่งขึ้น ก็คือพรุ่งนี้ เป็นวันอมฤตโชค ต้องบอกว่าเป็นฤกษ์ซึ่งดีที่สุด แต่กลับไม่ทนอีกวันหนึ่ง แม้จะทักท้วงไปแล้ว ท่านก็ยังมุ่งมั่นที่จะสึก จึงต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรม..!
ในเรื่องของการบวชนั้น เราจากที่ร้อนมาสู่ที่เย็น ไม่จำเป็นต้องดูฤกษ์ก็ได้ เร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น แต่การสึกหาลาเพศนั้น เราออกจากที่เย็นไปสู่ที่ร้อน ถ้าไม่ลำบากมากนัก ก็ดูฤกษ์ดูยามเสียนิดหนึ่ง
เนื่องเพราะว่าฤกษ์ยามนั้น กระผม/อาตมภาพเคยเปรียบไว้ว่าเหมือนกับคนข้ามถนน คนเก่ง ๆ สามารถข้ามถนนตอนที่รถมาก ๆ ก็ได้ แต่ถ้าวันไหนพลาดก็สวัสดี ดังนั้น..คนที่ไม่ประมาทก็ต้องเลือกเอาตอนที่ถนนว่างจากรถยนต์แล้วค่อยข้าม ก็คือดูฤกษ์ยามเสียเล็กน้อย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2024 เมื่อ 00:53
|