ดังนั้น..ใครจะใช้คาถาเสริญปัญญา ก็ภาวนา
ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ ดูก็ได้
หรือจะเล่นหมดทั้ง ๓ บทก็ได้ มั่วดีเหมือนกัน..!
เพราะว่าหลักใหญ่ ๆ ก็คือสร้างสมาธิให้เกิด คนที่สมาธิทรงตัว ความจำจะดีโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ก็แปลว่านอกจากต้องทนคำพูดของคนได้แล้ว ยังต้องอาศัยการ "เล่นของ" อยู่บ้างเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเป็นการเล่นในลักษณะที่ดี ก็คืออยู่ในกรอบของศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเอาไว้
กระผม/อาตมภาพเองนั้นต้องบอกว่าไม่มีบุญกับบาลี เพราะว่าไม่มีโอกาสสอบเอาประโยค แต่พอเวลาแปลหนังสือให้ฟัง บางทีเพื่อนจบประโยค ๙ แล้วยังงง ๆ ว่าไอ้ตัวนี้แปลแบบนี้ได้ด้วยหรือ ? ก็ถามท่านไปว่าแล้วความหมายได้ไหม ? ท่านบอกว่าได้ แล้วชัดเจนด้วย ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
เพราะว่าท่องบาลีไปเรื่อย ท่องบาลีไปเรื่อย อยู่ ๆ เหมือนมีอะไรแตกโป๊ะอยู่ในหัว แล้วเข้าใจขึ้นมาเอง ซึ่งเรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ต้องบอกว่าต้องมี "ของเก่า" อยู่บ้าง แต่คราวนี้ในเมื่อไม่มีโอกาสที่จะไปสอบประโยคบาลี ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ก็ถือว่าวาสนาของเราไม่มี คอยสนับสนุนพวกท่านไปก็แล้วกัน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2024 เมื่อ 02:03
|