ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 04-06-2024, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเชื่อว่า ท่านทั้งหลายที่เรียนมา น้อยคนที่จะรู้ว่ารหัสวิชาเขาแปลว่าอะไร ? แต่ที่กระผม/อาตมภาพสอน จะบอกลูกศิษย์ทุกครั้งว่าความหมายของรหัสวิชานี้คืออะไร ก็แปลว่าท่านเรียนแต่ในห้องเรียน แล้วไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติมตามที่หลักสูตรกำหนดเอาไว้ แล้วก็ไปทำผิดทำพลาดให้เสียหายมาถึงมหาวิทยาลัยอีกด้วย..!

แต่ยังเป็นเรื่องดีที่ว่าเสียงส่วนใหญ่ของบุคคลที่เข้าไปดูคลิป มักจะ "คอมเมนต์" ไปในทางที่ดี แล้วก็
"คอมเมนต์" แบบเข้าใจผิด ก็คือพ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก ลูกสามารถกราบได้ แม้ว่าจะไม่มี "คอมเมนต์" ไปในทางเสียหาย แต่กลายเป็นว่าบุคคลจะเข้าใจผิด แล้วต่อไปก็จะมีเหตุอย่างนี้เกิดขึ้นอีก

ท่านทั้งหลายโดยเฉพาะพระภิกษุสามเณร ต้องกำหนดจดจำให้มั่นคงเอาไว้ว่า ถ้าพ่อแม่มา เราก็ต้อนรับปฏิสันถารตามสมควร ถ้าหากว่ามีอะไรที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าอาหารบิณฑบาตของเรานั้น สามารถที่จะให้พ่อแม่กินก่อนได้

เหตุเกิดจากลูกเศรษฐีมาบวช ไม่มีใครดูแลทรัพย์สมบัติ พ่อแม่โดนโกงจนกระทั่งกลายเป็นขอทาน แล้วลูกเศรษฐีท่านก็เลยนำพ่อแม่ไปอยู่ในป่า สร้างกระต๊อบให้ ตนเองบิณฑบาตได้อะไรมาก็เอาไปให้พ่อแม่กินก่อน เหลือเท่าไรค่อยฉัน ได้ผ้าผ่อนท่อนสไบมาก็เอาไปย้อมเอาไปเย็บเสียใหม่ ให้พ่อแม่นุ่งห่ม ตนเองก็เลยยากลำบากจนผอมโกรก..!

เมื่อคนเขาทราบเข้าก็ไปกล่าวกันไปต่าง ๆ นานา พระพุทธเจ้าต้องตัดสินว่าสิ่งที่ท่านทำไม่ผิด โดยมีบาลีกำกับว่า นิมิตตัง สาธุรูปานัง กตัญญูกตเวทิตา แล้วทรงตรัสอนุญาตไว้ว่า ให้พระภิกษุสามารถเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้ แต่ท่านใช้คำว่า
"สงเคราะห์ด้วยปัจจัย ๔ ตามสมควร"

ท่านทั้งหลายที่เป็นรุ่นเก่าก็จะเห็นว่า กระผม/อาตมภาพเองก็จ่ายเงินเดือนให้โยมแม่ โดยที่ขอความเห็นจากคณะสงฆ์ก่อนว่า สภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ ต้องใช้เงินประมาณเท่าไรโยมแม่ถึงจะอยู่ได้โดยไม่ลำบากมากนัก แล้วคณะสงฆ์ก็สรุปลงมาว่า ๖,๐๐๐ บาทต่อเดือน
แม้ว่าสงฆ์จะอนุญาต กระผม/อาตมภาพก็ยังใช้เงินส่วนตัวให้โยมแม่ แทนที่จะเป็นเงินสงฆ์

ดังนั้น..การสงเคราะห์ด้วยปัจจัย ๔ ตามสมควร ก็คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ถ้าต้องใช้ครบถ้วนทั้ง ๔ อย่าง ๖,๐๐๐ บาทต่อเดือนคาดว่าไม่พอ แต่ก็ได้แค่นั้น ไม่ใช่บางท่านที่ประเภทไปปลูกบ้านให้พ่อแม่หลังละ ๒๐ ล้าน ซื้อรถหรูให้คนละคัน อันนั้นเกินไป..!

ดังนั้น..คำว่าสงเคราะห์ด้วยปัจจัย ๔ ตามสมควร ก็คือพออยู่ได้ ไม่ใช่ร่ำรวยล้นฟ้าไปเลย แบบอดีตเจ้าคุณบางท่าน หรือผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ระลึกชาติได้ทำแบบนั้น เพราะฉะนั้น..
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าจะศึกษาให้ชัดเจน เราก็ต้องยึดเอาพระไตรปิฎกเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดเอาความเห็นในสังคมเป็นหลัก ซึ่งบางทีก็พาออกนอกลู่นอกทางจนเกินไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2024 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา