ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า หลายต่อหลายอย่างกลายเป็นสิ่งที่พวกเรานำเอาไปใส่พระโอษฐ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือกล่าวว่าพระองค์ท่านตรัสสอนไว้ อย่าลืมว่าอดีตพระชื่อดังรูปนั้นท่านก็ศึกษามาสารพัด แต่น่าจะอ่านพระไตรปิฎกไม่ครบ ก็เลยไปบอกว่า "พ่อแม่เป็นพระอรหันต์ของลูก ทำไมจะกราบไม่ได้ ?"
ก็เพราะว่าอันดับแรก ตนเองอยู่ในอุดมเพศ ไปกราบบุคคลที่ศีลน้อยกว่าก่อให้เกิดโทษกับเขา ถ้าหากว่าผู้เป็นพ่อเป็นแม่คิดว่าพระลูกชายมากราบอยู่ทุกปี ทำไมปีนี้ไม่มากราบ ? แบบนี้ก็บรรลัยเลย กลายเป็นมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ มีโอกาสลงนรกสูงมาก กระผม/อาตมภาพจึงได้กล่าวเอาไว้ว่า "ท่านกำลังสนับสนุนพ่อแม่ให้ลงนรก..!"
แม้กระทั่งพระที่เป็นรุ่นน้องออกจากวัดท่าซุงมา ตอนนี้ก็สึกหาลาเพศไปแล้ว ก็คือทิดเผื่อน นั่นก็กลับบ้านเมื่อไรก็กราบแม่ กระผม/อาตมภาพเตือนแล้วเตือนอีกว่า "ท่านเผื่อน..ท่านทำอย่างนั้นจะพาแม่ลงนรก" แต่ท่านไม่สนใจ ด้วยความที่ดื้อรั้นไม่ฟังคำเตือน กระผม/อาตมภาพจึงต้องปล่อยวาง ส่งท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองลานได้ไม่นานก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าไม่ฟังใคร ท้ายสุดก็ต้องสึกหาลาเพศไปอีก ถ้าเรายกตัวอย่างแค่สองรายว่า "บุคคลที่กราบแม่ต้องสึกทั้งคู่..!" ก็จะหาว่ากระผม/อาตมภาพกล่าวหากันเกินไปอีก
แต่สำหรับวันนี้ที่หนักใจก็เพราะว่าท่านเป็นเจ้าอาวาส แล้วถ้านานไปกลายเป็นเจ้าคณะตำบล กลายเป็นพระอุปัชฌาย์ แล้วท่านไปทำแบบนั้น ก็จะกลายเป็นแบบอย่างที่ผิด ๆ ทำให้พระภิกษุสามเณรของเราประพฤติปฏิบัติผิดไปด้วย เพราะว่าทุกคนก็ต้องเข้าใจว่าครูบาอาจารย์บอก พระอุปัชฌาย์อาจารย์บอกต้องถูกต้อง
ที่กระผม/อาตมภาพหนักใจก็คือว่า พระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่เคยสั่งไม่เคยสอนอะไรเลยหรือ ? แล้วตัวท่านเองก็ไม่ได้ศึกษาความรู้อะไรเพิ่มเติมเลยหรือ ? เพราะตามที่นักข่าวเขาบอกในคลิปที่เพื่อนส่งมาให้ดู บอกว่าท่านเมื่อบวชแล้วก็เรียนจนจบปริญญาตรี ซึ่งก็น่าจะจบจากมหาวิทยาลัยสงฆ์ ถ้าหากว่าจบจากมหาวิทยาลัยสงฆ์แล้วยังพลาด ก็แปลว่าไม่ได้ศึกษาอะไรเพิ่มเติมเลย..!
บรรดาท่านทั้งหลายที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ มักจะเห็นรหัสวิชา อย่างเช่นว่ารหัสวิชาประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ๒-๐-๔ เลข ๒ นั่นก็คือเรียนในห้องเรียนครั้งละ ๒ ชั่วโมง เป็นวิชา ๒ หน่วยกิต ๐ ก็คือไม่มีชั่วโมงการดูงานนอกสถานที่ ๔ ก็คือต้องไปศึกษาเพิ่มเติมด้วยตนเองอย่างน้อยอาทิตย์ละ ๔ ชั่วโมง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-06-2024 เมื่อ 02:18
|