วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ บางสิ่งบางอย่างเราอยู่เฉย ๆ เรื่องไม่ดีก็วิ่งเข้ามาชนได้เอง เนื่องเพราะมีผู้ตั้งกระทู้ใน "พันทิป" ว่า "อาชีพอะไรที่รวยเงียบ ๆ แล้วไม่มีคนสนใจ" ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่บอกว่า "พระ" แถมยังอธิบายอีกด้วยว่า พระนั้นบ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ ผู้มีจิตศรัทธาถวายปัจจัยไทยธรรมอยู่ทุกวัน ฟังแล้ว "น้ำตาจิไหล..!"
กระผม/อาตมภาพเองขี้เกียจจะไปแก้ไขแนวคิดของบุคคลพวกนี้แล้ว เนื่องเพราะว่าถ้าเป็นศัพท์ชาวบ้านก็คือ ไอ้พวก"ตีหัวเข้าบ้าน" เสียเวลาไปถกเถียงด้วย โดยเฉพาะพวกที่บอกว่า "บวชแล้วสบาย" ช่วยเชิญตัวมาบวชที่วัดท่าขนุนหน่อย ดูสิว่าจะรีบสึกภายใน ๓ วันหรือเปล่า ? เนื่องเพราะว่าการบวชช่วงวิสาขบูชาที่ผ่านมา มีผู้บวช ๕ รูป วันที่ ๒๒ คือวันวิสาขบูชาตอนเที่ยงครึ่งบวช วันที่ ๒๓ เช้าสึกไปแล้ว สบายแล้วทำไมไม่อยู่ต่อ !?
ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าเรื่องพวกนี้ที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรา ก็เพราะว่า..ไม่อยากจะใช้คำว่า "พระ" เนื่องจากคำว่า "พระ" แปลว่า "ผู้ประเสริฐ" ก็เพราะว่านักบวชส่วนใหญ่แล้วไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ในเมื่อไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เงินทองที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นว่าเป็นตัวถ่วงมรรคถ่วงผลมากพอ ๆ กับเพศตรงข้าม แทนที่จะถูกใช้ออกเพื่อประโยชน์ของพระพุทธศาสนา ก็กลายเป็นว่าไปเก็บสะสมไว้
บางรายก็ถึงขนาดต้องเอาไปให้ญาติตนเอง เพื่อที่จะสร้างประโยชน์ให้งอกเงยมากกว่านั้น บางรายก็ต้องไปฝังดินไว้หลังวัด จนกว่าเขาจะไปขุดเจอ..!
แล้วท่านทั้งหลายลองดูวัดท่าขนุนของเรา แค่ช่วงวิสาขบูชาที่ผ่านมา เฉพาะการมอบทุนการศึกษาอย่างเดียวประมาณ ๒ ล้านบาท..! อยากจะถามว่า "ญาติโยมถวายนานเท่าไรถึงจะได้ ๒ ล้านบาท ?" ใครที่บอกว่าบวชพระแล้วรวย มาอยู่ที่ทองผาภูมิหน่อย กระผม/อาตมภาพจะส่งไปเป็นเจ้าอาวาส ไม่ต้องมากหรอก แค่วัดพุทธบริษัทที่อยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ..!
ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่า "ทำไมวัดนี้เปลี่ยนเจ้าอาวาสบ่อยมาก..ปีหนึ่ง ๔ รูป..!?" เมื่อส่งพระวัดท่าขนุนไปเป็นเจ้าอาวาสถึงได้ซาบซึ้ง ๓ ปีผ่านไปมีกิจนิมนต์ ๑ ครั้ง ได้เงินมา ๑๐๐ บาท..! อยากจะถามหน่อยว่ามีใครอยู่ได้ด้วยเงิน ๑๐๐ บาทภายใน ๓ ปีบ้าง ? จนกระผม/อาตมภาพต้องตั้งเงินเดือนให้กับเจ้าอาวาส ไม่อย่างนั้นแล้วก็อยู่ไม่ได้ กว่าที่จะยืนหยัดฟันฝ่ามาจนญาติโยมยอมขึ้นไปทำบุญ ใช้เวลาเป็น ๑๐ ปี..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2024 เมื่อ 02:27
|