หรือบางคนที่พอมีจรรยาบรรณอยู่บ้าง ก็มักจะตีว่าเป็นของแท้ แต่ว่ามักจะให้ราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ซึ่งกระผม/อาตมภาพเจอมาด้วยตนเอง ก็คือมีเซียนพระใหญ่อยู่รายหนึ่ง เพิ่งจะจำหน่ายหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ ไปในราคา ๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท
กระผม/อาตมภาพให้ลูกศิษย์นำพระของตนเอง ซึ่งสวยกว่า เอาไปให้เขาลองตีราคาดู ปรากฏว่าอีกฝ่ายให้ราคาแค่แสนเดียว..! กระผม/อาตมภาพจึงได้มอบพระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ปี ๒๔๙๗ องค์นั้นให้กับลูกศิษย์ บอกว่า "เขาให้ราคาเท่าไรก็อย่าขาย แต่เอาไปแขวนเย้ยมันเสียบ้าง ว่าเรามีของสวยกว่า..!"
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ หลายท่านที่เข้าไปในวงการแล้วก็เข็ดหลาบไปตาม ๆ กัน เนื่องเพราะว่าไปโดนเขาต้มเอาบ้าง ไปโดนเขากดราคาบ้าง ไปโดนเขาตีว่าเป็นของปลอมบ้าง จนกระทั่งเสียกำลังใจ เลิกคบ เลิกเข้าวงการไปเลยก็มี แต่เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราเข้าใจว่าเป็นธรรมดาของบุคคลที่ยังเต็มด้วย รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะต้องทำในลักษณะนี้เพื่อตนเอง
แต่ถ้าหากว่าท่านใดไปเจอกับเซียนพระ หรือว่าผู้ที่เล่นเครื่องรางของขลัง ที่มีศีลมีธรรม ท่านก็จะได้ราคาที่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งน้อยนักที่เราจะได้เจอบุคคลแบบนั้น ส่วนใหญ่ก็มักจะฟันกันชนิดหัวขาดไปข้างหนึ่ง..! เรียกง่าย ๆ ว่ากินกำไรทีเดียว แล้วก็ไม่ต้องคบหากันไปอีกเลย เป็นต้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุ สามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2024 เมื่อ 02:15
|