วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เรื่องราวข่าวร้อนในวงการสงฆ์ ในที่สุดก็พาดพิงมาถึงกระผม/อาตมภาพจนได้ ก็คือเรื่องที่มีคลิปที่สามเณร ๒ รูป เจริญพระกรรมฐาน แล้วมีการกระโดดเด้งไปเด้งมา มีการสอบถามว่า "เป็นกรรมฐานแบบไหน ? หรือว่าใช่อุพเพ็งคาปีติหรือไม่ ?"
ในเรื่องนี้ขออนุญาตกล่าวเป็นสองส่วนด้วยกัน ส่วนที่หนึ่งก็คือกล่าวถึงเรื่องของปีติในการเจริญพระกรรมฐาน อีกส่วนหนึ่งก็คือ กล่าวถึงการจัดการกับอธิกรณ์ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิเรื่องนี้
เรื่องของการเจริญพระกรรมฐานนั้น มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เจริญพระกรรมฐานส่วนใหญ่ ร้อยละ ๙๙.๙๙ จะต้องผ่าน ก็คืออาการปีติ คำว่า ปีติ นี้เป็นความอิ่มเอิบใจที่เกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาแล้ว มีอาการต่าง ๆ กันออกไป อรรถกถาจารย์ท่านจำแนกออกได้ ๕ ประการด้วยกัน
อาการที่ ๑ เรียกว่า ขณิกาปีติ เป็นอาการปีติเล็กน้อย มีขนลุกซ่า ๆ เป็นระยะ ๆ
อาการที่ ๒ เรียกว่า ขุททกาปีติ เป็นปีติที่มีน้ำตาไหล บางทีก็ไหลพราก ๆ ไม่อยากจะหยุด
อาการที่ ๓ เรียกว่า โอกกันติกาปีติ มีร่างกายโยกไปโยกมา ถ้าหากว่ารุนแรง ก็มีอาการดิ้นตึง ๆ เหมือนผีเจ้าเข้าสิงก็มี
อาการที่ ๔ เรียกว่า อุพเพ็งคาปีติ บางคนเรียกว่า ปีติโลดโผน ก็คือมีการกระโดดโลดเต้น กระผม/อาตมภาพเคยเจอมา ก็คือตีลังกาในศาลาเลยก็มี บางทีก็ลอยขึ้นทั้งตัว ลอยไปไกล ๆ
อาการสุดท้ายเรียกว่า ผรณาปีติ มีอาการตัวพอง ตัวใหญ่ ซาบซ่าน บางทีรู้สึกว่าตัวรั่วเป็นรู มีสิ่งต่าง ๆ ไหลออกจากร่างกาย ซู่ซ่าไปหมด ถ้าอาการหนัก ๆ บางทีรู้สึกว่าตัวแตก ระเบิดกลายเป็นผงไปเลยก็มี..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2024 เมื่อ 00:39
|