เมื่อตอนที่โยมจะถวายรถยนต์ กระผม/อาตมภาพได้บอกไปว่า ทองผาภูมินั้นเป็นพื้นที่กันดาร ต้องมีรถตรวจการณ์ หรือว่าขับเคลื่อน ๔ ล้อ ถึงจะเหมาะสม ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่สะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ของพระสังฆาธิการ ที่ต้องออกตรวจการณ์คณะสงฆ์ในที่ลำบาก โยมก็ปวารณาถวาย Lexus เลย ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็บอกว่า "เกินความจำเป็น"
อันดับแรกก็คือ ถ้าเราคิดราคาแล้ว มาเทียบกับรถตรวจการณ์ทั่วไป สามารถซื้อรถตรวจการณ์ทั่วไปได้ตั้ง ๓ - ๔ คัน ถ้าหากว่าแต่ละคัน อายุใช้งาน ๕ ปี ซื้อรถตรวจการณ์ทั่วไปใช้ได้ ๒๐ ปี แต่ถ้าหากว่าซื้อ Lexus ก็ใช้ได้ ๕ ปีเท่านั้น..!
ท้ายสุดโยมก็ยังต้องลดลงมาเป็น Fortuner แต่ก็ยังแอบรวย ก็คือเอาระบบอัตโนมัติมาทั้งคัน กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า "ถ้าวันไหนเสียหลักตกน้ำลงไป กูตายแน่ เพราะระบบจะตัดหมด ออกจากรถไม่ได้..!" นี่คือการที่โยมมีศรัทธา แต่เราสามารถที่จะปรับเปลี่ยนเอาที่พอเหมาะพอสมกับฐานะของเราได้
แล้วอีกประการหนึ่งก็คือไปพลาดตรงที่ไปโพสต์ออกสื่อโซเชียล ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องไปออก คาดว่าคงเจตนาให้คนอนุโมทนา ที่ตนเองได้ถวายยานพาหนะแก่ครูบาอาจารย์ที่เคารพ แต่ไม่รู้ว่าจะ "ดราม่า" กันถึงขนาดนี้..!
แล้วหลายท่านก็ไปขุดประวัติของหลวงตาสินทรัพย์ ว่าเป็นผู้ต้องหาต้องคดีมาก่อนอะไรให้วุ่นวายไปหมด ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านั้น ท่านไม่ต้องคิด โยนทิ้งไปได้เลย เพราะถ้าหากว่าจะเอาเรื่องก่อนบวช คงไม่มีใครหนักกว่าพระองคุลิมาลเถระ..!
พระองคุลิมาลเถระยังสามารถที่จะปฏิบัติจนกระทั่งกลายเป็นพระอรหันต์ พ้นจากกองทุกข์ ไปสู่พระนิพพานได้ ดังนั้น..ในเรื่องของภูมิหลัง ไม่ได้จำเป็นอะไรเลย นอกจากความมันในชีวิตของคนที่จะไปเที่ยวขุดคุ้ยเรื่องคนอื่นเขา ซึ่งบุคคลที่สนใจผิดประเภทแบบนั้น ก็พูดได้เลยว่าไม่ได้ปฏิบัติธรรมแน่นอน เนื่องเพราะว่ามัวแต่ไปสนใจจริยาคนอื่น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2024 เมื่อ 01:52
|