ในส่วนตัวของกระผม/อาตมภาพก็คือ ไม่เคยคิดที่จะรบกวนครูบาอาจารย์เลย แม้ว่าการไปกราบครูบาอาจารย์ในสมัยก่อน พอเห็นท่านพักผ่อน กระผม/อาตมภาพก็กราบทำบุญอยู่ตรงนั้น แล้วก็ถอยออกมา บางท่านอย่างเช่นหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง คนเข้าแถวเพื่อเข้าไปกราบท่านข้างในยาวเป็นกิโลเมตร..! พอท่านเจ้าประเวทย์ ณ ลำปางเห็นกระผม/อาตมภาพ ก็พนมมือนิมนต์ว่า "หลวงพี่..นิมนต์ทางนี้เลยครับ จะได้เข้าก่อน" กระผม/อาตมภาพกราบลงกลางสนามนั่นแหละ แล้วก็ฝากปัจจัยเอาไว้ทำบุญกับหลวงปู่ นั่งรถกลับทันที..!
หรือการที่ไปกราบหลวงปู่ทองดำ ฐิตวัณโณ วัดท่าทอง จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งท่านนอนพักผ่อนอยู่บนเตียงพยาบาล พระที่ดูแลก็บอกว่า จะปลุกหลวงปู่เพื่อให้มาต้อนรับ กระผม/อาตมภาพบอกว่าไม่ต้อง ฝากดอกไม้ ธูป เทียน และซองปัจจัยในพาน บอกท่านว่า "ถ้าหลวงปู่ตื่นขึ้นมาแล้ว รบกวนถวายท่าน และช่วยเรียนว่ากระผม/อาตมภาพมากราบ และตอนนี้ลากลับไปแล้วก็พอ"
ขนาดทำตัวว่าเป็นบุคคลที่ไม่ยอมรบกวนครูบาอาจารย์ เพราะกลัวว่ากรรมจะสนอง แต่ดูท่าว่าคนอื่นจะไม่ได้กลัวตรงนี้เลย กระผม/อาตมภาพจึงได้แต่นั่งเซ็งในอารมณ์ คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ชาติก่อนกูคงทำเอาไว้เยอะ แต่ชาตินี้ไม่ได้ทำอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น...ชดใช้เวรกรรมชาติก่อน ๆ ให้หมด ๆ ไปก็แล้วกัน เผื่อบรรดาลูกศิษย์มันจะได้รู้สำนึกเสียบ้างว่าตัวเองควรที่จะทำอย่างไรกับครูบาอาจารย์..!"
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2024 เมื่อ 04:23
|