หลายต่อหลายอย่าง สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้นั้นเป็นความจริงทั้งหมด เพียงแต่ว่าเมื่อไรจะมีบางท่านที่ไปพบแล้วนำมาเล่าสู่กันฟังเท่านั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
การรู้เห็นเป็นของแถมในการปฏิบัติ ถ้าจิตใจของเราสงบถึงที่สุด จะรู้เห็นขึ้นมาเอง เพราะว่าสภาพจิตของเราเหมือนกับน้ำ ถ้ากระเพื่อมด้วยแรง รัก โลภ โกรธ หลง ก็ไม่สามารถที่จะเห็นอะไรได้ แต่ถ้าหากว่านิ่งสงบ ราบเรียบเหมือนกระจกเมื่อไร จะสะท้อนเงาทุกอย่างลงไปได้ชัดเจนมาก
แต่ต้องระมัดระวังการทดสอบ อย่างที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า เราเห็นเขาไล่ฆ่าไล่ฟันกันมา เราก็ลากมีดลากปืนไปช่วยเขา จะโดนเขากระทืบตาย เพราะเขากำลังถ่ายหนังกันอยู่..! เราเห็นเขาไล่ฆ่าไล่ฟันกันมาจริงไหม ? ก็จริง แล้วเรื่องที่เห็นจริงไหม ? ไม่จริง เพราะว่าเขากำลังเล่นหนัง ถ่ายภาพยนตร์กันอยู่
ในสมัยที่บวชอยู่วัดท่าซุงใหม่ ๆ ในระหว่างพระพี่พระน้องด้วยกัน เมื่อตอนค่ำหลังเลิกกรรมฐานแล้วก็มาฉันน้ำปานะ มาพูดคุย วิเคราะห์วิจัยส่วนที่ได้พบเห็นกันมา แล้วท้ายที่สุด ทุกคนมีข้อสรุปลงเหลือคำเดียวเหมือนกันว่า "กูไม่เชื่อ" ต่อให้เรื่องที่ ๑ ถูกต้อง เขามาบอกเรื่องที่ ๒ ก็อย่าเพิ่งเชื่อ เรื่องที่ ๑ เรื่องที่ ๒ ถูกต้อง เรื่องที่ ๓ ก็อย่าเพิ่งเชื่อ แล้วจะทำใจอย่างไร ? รับรู้ไว้ด้วยความเคารพ ถ้าเกิดขึ้นตามนั้น แล้วค่อยน้อมใจขอบคุณที่ท่านอุตส่าห์มาบอก
แต่ส่วนที่เราควรทำที่สุดก็คือรักษากำลังใจของตนเองเอาไว้ อย่าให้ รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามากินใจ อย่าให้ รัก โลภ โกรธ หลง ทำใจของเราให้ขุ่นมัว ไม่อย่างนั้นทิพจักขุญาณถ้าไม่แจ่มใส ก็ยิ่งจะโดนหลอกลวงได้ง่ายขึ้น..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2024 เมื่อ 03:35
|