ส่วนในเรื่องของการพักรถทุกสองชั่วโมงนั้น รถทัศนาจรทุกคันจะต้องติดเครื่องหมายตามตัวผ่านดาวเทียม ที่เรียกว่าจีพีเอส ถ้าหากว่าถึงเวลาที่กำหนดแล้วไม่หยุด จะมีสัญญาณเตือนไปที่ศูนย์ควบคุม เจ้าหน้าที่ควบคุมจะโทรศัพท์ถึงพลขับทันที ถ้าหากว่าไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วน แล้วมีการเกินเวลาก็จะโดนตัดแต้ม จึงทำให้ทุกคนทั้งกลัวทั้งเกรง
การเดินทางซึ่งถ้าเป็นที่เมืองไทย น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ก็คงจะสามารถไปถึงภายใน ๓ ชั่วโมง แต่ทางด้านประเทศจีนนี้ต้องใช้เวลาถึง ๗ ชั่วโมงครึ่ง ทำให้การพักผ่อนในระหว่างทางนั้น ก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้ เนื่องเพราะว่าไม่ได้สบายเหมือนกับนอนเตียง
เช้าวันนี้กระผม/อาตมภาพจึงลืมตาตื่นขึ้นมาตอนตี ๔ กว่าของประเทศจีน ซึ่งต้องบอกว่าน้อยครั้งที่ร่างกายจะทรุดโทรมจนกระทั่งตื่นสายขนาดนี้ แล้ววันนี้ยังโชคดีที่ว่า พวกเรามีนัดปลุกตอน ๖ โมงครึ่ง รับประทานอาหารเช้าตอน ๗ โมงครึ่ง และออกเดินทางตอน ๘ โมงครึ่ง จึงทำให้มีเวลาพักผ่อนได้มากขึ้น
แต่กระนั้นก็ตาม พวกเราที่ตรงเวลาจนเคยชิน ก็ยังลงมารอเวลาห้องอาหารเปิด ซึ่งเขาเปิดตรงเวลา คือ ๗ โมงเช้า และต้องอาศัยคีย์การ์ดประจำห้องของใครของมัน ในการที่จะเข้าไปเพื่อรับประทานอาหาร พวกเราจองโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าแท่นวางอาหารเลย ครั้นตักมาได้แล้วก็นั่งลงรับประทาน อิ่มหนำสำราญแล้ว พรรคพวกเข้ามาถึงพอดีก็นั่งกันต่อ ต้องบอกว่าสามารถที่จะทำได้ต่อเนื่องกันดีมาก ไม่ขาดช่วงเลย..!
หลังจากนั้นก็มีการนำกระเป๋าไปขึ้นรถ มาถึงตรงนี้แล้ว กระเป๋าก็ยังไม่ได้งอกเพิ่มขึ้นมา รถเราออกตรงเวลา คือ ๘ โมงครึ่ง มุ่งไปยังเมืองเก่าสถานที่หนึ่ง ซึ่งก็คือตลาดเมืองเก่าจิ๋นหลี่ ซึ่งเป็นตลาดเก่าที่มีมาตั้งแต่สมัยฉินซีฮ่องเต้ แต่ว่ามีการปรับปรุงขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามระยะเวลา คือเป็นตลาดมาตั้งแต่โบราณยุคนั้น พวกเราต้องเอารถไปจอดบริเวณลานจอดรถ แล้วก็ลงเดินไป ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลเป็นกิโลเมตรเหมือนกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2024 เมื่อ 05:51
|