เมื่อเดินเข้าไปด้านใน น่าจะเป็นวัดของลัทธิเต่า เนื่องเพราะว่ามีรูปหล่อปรมาจารย์หยวนสื่อเทียนจุนอยู่ด้วย ส่วนด้านข้างก็มีพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ พระมัญชุศรีโพธิสัตว์ มีกระทั่งเหลาจื่อ กระผม/อาตมภาพทำบุญทุกจุด ๆ ละ ๑๐๐ หยวน และขออุทิศส่วนกุศลให้กับหลวงปู่ไห่ทง พญาหวงหลงหวัง ท่านสุ่ยหลง ท่านสุ่ยเกา ตลอดจนกระทั่งท่านสุ่ยเจียว และบริวารทั้งหลาย ขอบคุณที่ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กระผม/อาตมภาพและคณะมาตลอดทาง ทุกท่านโมทนากันอย่างชนิดฟ้าสะท้านดินสะเทือน..!
แล้วกระผม/อาตมภาพก็เดินทางต่อไป เพื่อที่จะไปยังสระน้ำหวงหลง ซึ่งเป็นสระน้ำเกิดจาการจับตัวของหินปูนเป็นชั้น ๆ ลงมา ลักษณะคล้าย ๆ สระสวรรค์ปามุคกาเล ที่ประเทศตุรกีเช่นกัน แต่ด้วยความที่มีคนมาก รวมกันอยู่ด้านล่าง ทำให้ถ่ายรูปไม่สะดวก และสิ่งหนึ่งที่คิดไม่ถึงก็คือว่า มีบุคคลเรียกร้องอยากจะดูหิมะ ปรากฏว่าเมื่อคืนหิมะไม่ได้ตกที่จิ่วไจ้โกว แต่มาตกที่หวงหลงนี่เอง ยังโดนกวาดกองอยู่ข้างกำแพงวัดเป็นจำนวนมาก กระผม/อาตมภาพจึงถ่ายรูปมาให้ทุกคนดู เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าหิมะนั้นได้ตกจริง ๆ ตามที่ขอ เพียงแต่ตกคนละที่เท่านั้น..!
แล้วก็เดินวนขวาสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อที่จะถ่ายรูป โดยมีน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ป้ามอย (นางสาวมณีวรรณ สัมฤทธิ์) ลูกปุ๊ก (นางสาวสุมาลี ตีรเลิศพานิช) ตลอดจนกระทั่งคณะหลายท่านที่เดินตามทันไล่มาเป็นระยะ แล้วก็เพิ่งจะเห็นว่า ภาพมุมสูงนี่เอง ที่เป็นภาพปรากฏอยู่ในประชาสัมพันธ์สถานที่หวงหลงแห่งนี้
ครั้นเดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดก็ต้องตะลึง เนื่องเพราะว่าย่าเล็ก (นางภัทริณ จันทรนิภาพงศ์) ซึ่งอายุ ๘๔ ปีแล้ว มากับลูกสาว คือคุณแบงค์ (นางศรินธร เซ็นภักดี) และคุณหนุ่ม ลูกเขย (นายบัญชา เซ็นภักดี) ส่วนอีกสองตายายที่ตามขึ้นมาก็คือลูกเต้อ (นายมานนท์ ศิริวรดล) กับลูกเหมียว (นางนิภา ศิริวรดล) ซึ่งทั้งคณะนี้เดินผิดทาง ตะกายฟ้าขึ้นมาทางขวามือแทนที่จะเป็นทางซ้ายมือ..!
กระผม/อาตมภาพจึงช่วยถ่ายรูปให้คุณยาย เรียบร้อยแล้วก็ขอตัวเดินลงมา ถึงบริเวณสามแยกมหาสมุด เจอน้องการ์ตูนกำลังถ่ายรูปอยู่ จึงผลัดกันถ่ายคนละที แล้วบอกน้องการ์ตูนว่า ให้เดินไปซ้ายมือแล้วค่อยอ้อมขวาลงมา จากนั้น กระผม/อาตมภาพก็เดินสำรวจบริเวณร้านค้า แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำ ซึ่งสะอาดเอี่ยม น่าใช้มาก แต่ว่าทิชชู่หมดเกลี้ยงทุกห้องเลย..!
เสร็จแล้วจึงเดินย้อนกลับมา ปรากฏว่าช่วงขาขึ้นนี้ รู้สึกว่าความแก่มีปัญหา เริ่มจะต้องถอดหน้ากากออกถึงจะหายใจได้ทัน..! หน้ากากอนามัยจึงระเห็จไปอยู่ภายใต้ผ้าสังฆาฏิ แล้วกระผม/อาตมภาพก็เดินขึ้นมาถึงด้านบนเป็นคนแรก จัดการส่งรูปต่าง ๆ ให้ไอ้ตัวเล็กเอาไปลงในเพจเฟซบุ๊ก และบุคคลที่สนใจจะได้ติดตามดู หรือว่าโหลดเอาไปใช้งานด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2024 เมื่อ 05:40
|