เปิดตัวด้วยพิธีกรสาวที่มาแนะนำการเขียนลายมือด้วยพู่กันจีน แถมยังมีการประมูลอีกด้วย ซึ่งทางเราก็ไม่ทราบว่ามีการประมูล จึงไม่มีใครยกมือให้ราคา เพราะว่าเขานับแค่ "อี๋ เอ้อ ซัน (หนึ่ง สอง สาม)" เท่านั้นเอง ใครยกมือก่อนก็ได้ไป แล้วหลังจากนั้นก็เป็นการแสดงกายกรรมและวิทยายุทธต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งชีวิตชาวบ้านสมัยก่อน ที่ประกอบไปด้วยอาชีพต่าง ๆ ๑๘ อาชีพด้วยกัน ตลกเฮฮาสนุกสนานมาก
จนกระทั่งมาถึงการเปลี่ยนหน้ากาก ที่เขาลงมาเปลี่ยนให้ดูใกล้ ๆ เลย แต่ก็ไม่มีใครจับได้ไล่ทัน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ หุ่นเชิดที่เขาเชิดอยู่ ก็สามารถที่จะเปลี่ยนหน้ากากได้ด้วย..! หลังจากนั้นก็เป็นการแสดงอุปรากรจีน ไม่ว่าจะเป็นการร่ายรำ หรือว่าหุ่นชัก ตลอดจนกระทั่งท้ายที่สุด ก็เป็นชุดสักการะพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ เมื่อถึงเวลาท่านมาอำนวยอวยพรให้เป็นการปิดการแสดง
พวกเราเดินออกมาหารถ แต่ปรากฏว่าด้วยความที่บางคนมัวแต่ซื้อของที่ระลึกอยู่ ก็เลยมีการหลงทาง ยังดีที่มีไลน์กลุ่มและโทรศัพท์ให้ติดต่อกันได้ พวกเรามาถึงที่พักในเวลาประมาณ ๓ ทุ่มของเมืองจีน ก็ราว ๆ ๒ ทุ่มของเมืองไทย
กระผม/อาตมภาพจึงต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในที่พักของตนเอง พรุ่งนี้ทางคณะทัวร์นัดว่าจะปลุกตั้งแต่ตี ๕ ครึ่ง ก็คงจะเป็นเวลาตี ๔ ครึ่งของเมืองไทย เพราะว่าต้องเดินทางไปยังจิ่วไจ้โกวที่ค่อนข้างจะไกลเป็นพิเศษ ถ้าหากว่ามีอะไร กระผม/อาตมภาพจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมคร่าว ๆ เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2024 เมื่อ 04:40
|