ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 10-05-2024, 22:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..วิชาปรัชญาสมัยก่อน จึงนิยมเรียนกันมาก โดยเฉพาะเดินทางไปเรียนถึงประเทศอินเดีย บุคคลที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเลย ก็คือท่านอาจารย์กรุณา และท่านอาจารย์เรืองอุไร กุศลาสัย ซึ่งทั้งสองท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก

แต่ในปัจจุบันนี้ ด้วยความที่เราสามารถศึกษาได้จากแทบทุกมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องไปเรียนถึงต้นตำรับที่ประเทศอินเดีย ทั้งยังสามารถค้นคว้าจากห้องสมุดดิจิทัลได้ ก็เลยทำให้เราท่านทั้งหลายลดความสำคัญของวิชาปรัชญาลง โดยที่ไม่ทราบเสียด้วยซ้ำไปว่า ทำไมในระดับปริญญาตรี ถึงต้องเรียนวิชาปรัชญาเบื้องต้น ? แล้วหลังจากนั้น ถึงได้เพิ่มขึ้นไปเป็นปรัชญามหาบัณฑิต หรือว่าปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก

ความจริงวิชาปรัชญานั้น กระผม/อาตมภาพมีความเห็นส่วนตัวว่า "เป็นวิชาที่ยังเถียงกันไม่จบ" เนื่องเพราะว่าถ้าหากว่าเถียงกันจบ ก็คือสรุปลงมาได้แล้ว ก็จะกลายเป็นศาสตร์ อย่างเช่นว่าจริยศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น ถ้ายังถกเถียงกันอยู่ ส่วนนั้นก็จะจัดว่าเป็นปรัชญา จึงทำให้บุคคลบางท่านเข้าใจผิด คิดว่าคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือปรัชญาในพระพุทธศาสนา ซึ่งกระผม/อาตมภาพ ได้คัดค้านทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดคำว่าปรัชญาพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าปรัชญานั้นยังเถียงกันไม่จบ ต่อให้ที่เถียงกันจบแล้ว ถ้ามีคนยกทฤษฎีที่มีเหตุผลมากกว่าขึ้นมา ก็ยังสามารถที่จะหักล้างได้

แต่ว่าคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเป็นอริยสัจ คือความจริงอันประเสริฐ เป็นความจริงแท้ ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว อย่างที่พระองค์ตรัสว่า สรรพสิ่งนั้นไม่เที่ยงแท้แน่นอน สรรพสิ่งนั้นมีแต่ความทุกข์ สรรพสิ่งนั้นไม่มีอะไรเป็นตัวตนเราเขา ให้ยึดถือมั่นหมายได้

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นความจริงแท้ ต่อให้คุณจะศึกษาวิชาการสายไหนมาก็ตาม เมื่อพินิจพิจารณาในสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ ก็สามารถที่จะเข้าถึง และยอมรับอย่างแท้จริงได้ ว่านี่เป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นความจริงของโลก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 23:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา