เพราะว่าพระเณรสมัยนี้ข้อเรียกร้องสูงมาก ให้สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน กูก็งอแงไม่อยากจะทำ อ้างว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสยังไม่ลงเลย แต่วัดที่หลวงพ่อเจ้าอาวาสลงมานั่งหัวโด่ตั้งแต่ตี ๓ กว่า ๆ ก็ไม่ลงเหมือนกัน สรุปว่าเป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น ถ้ากระทั่งความดีที่จะทำใส่ตัวยังขี้เกียจ โอกาสที่จะเอาดีได้ก็น้อยมาก
ดังนั้น..กระผม/อาตมภาพจึงเป็นห่วงบรรดาเจ้าอาวาสใหม่ ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เฉพาะแค่ ๔ จังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ก็คือกาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี ปีนี้อบรมเจ้าอาวาส ๓ รุ่น รุ่นที่ ๓ นี้ ๘๑ รูป แล้วเจ้าอาวาสเก่าไปไหน ? ตาย สึก ลาออก มีกันอยู่แค่นี้ หรือถ้าประเภทต้องคดี หนีเตลิดเปิดเปิงอะไรนั่นก็ว่ากันไปอีกอย่างหนึ่ง
ดังนั้น..เราจะเห็นว่าเจ้าอาวาสนั้นหายากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่าตามระเบียบกำหนดไว้ว่า ต้องพรรษาพ้น ๕ ก็คือต้องย่างเข้าปีที่ ๖ กระผม/อาตมภาพเคยตั้งรักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่พรรษา ๒ จนกระทั่งพ้น ๕ ถึงจะตั้งเป็นเจ้าอาวาสได้ เพราะว่าติดด้วยระเบียบตรงนี้
คราวนี้ถ้าหากว่าบ้านเราเมืองเรายังนิยมการบวชแค่ ๓ วัน ๗ วัน ต่อไปคงจะหาเจ้าอาวาสไม่ได้ เพราะคุณสมบัติไม่ครบ ดีไม่ดี ก่อนที่กระผม/อาตมภาพจะมรณภาพ อาจจะได้เห็นว่าประเทศไทยมีวัด แต่หาเจ้าอาวาสไม่ได้ นั่นก็เป็นเรื่องของอนาคต เพียงแต่ปรารภให้เราท่านทั้งหลายได้ฟังเอาไว้ว่าเรื่องบางอย่าง เราไม่ได้ตั้งความหวังไว้ ภาระก็หล่นใส่บ่าลงมา
ดังนั้น..ถ้ามีโอกาส ต้องรีบขัดเกลาตนเอง ทั้งทางโลกและทางธรรม ให้มีความรู้ความสามารถให้มากที่สุด ถึงเวลาแบกรับภาระ จะได้ไม่รู้สึกว่าหนักมากนัก แต่ถ้าหากว่าไม่ขัดเกลาตัวเอง อยู่ ๆ ภาระตกลงมา โอกาสที่จะโดนภาระทับตายก็มีสูงมาก..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 03:03
|