อย่าลืมว่าตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ใช่เจ้าของวัด วัดเป็นวัดในพระพุทธศาสนา เป็นศาสนสมบัติ เจ้าอาวาสเป็นเพียงตัวแทนวัด มีหน้าที่ในการสอดส่อง ดูแล ทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ภายในวัด ให้ปฏิบัติตามศีลธรรม กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ มติ คำสั่ง หรือประกาศของมหาเถรสมาคม มีหน้าที่ช่วยดูแลเสนาสนะ ให้สะอาด สว่าง สงบ มีหน้าที่อำนวยความสะดวกในการบำเพ็ญกุศลให้แก่ญาติโยมตามอัตภาพ หลายท่านไปหลงเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าอาวาสคือเป็นเจ้าของวัด..!
แล้วที่แน่ ๆ ก็คือกระผม/อาตมภาพเชื่อว่า วันแรกที่ทุกคนตั้งใจบวช ไม่มีใครตั้งใจบวชมาเพื่อเป็นเจ้าอาวาส..! ต้องบอกว่าถึงเวลา "จับพลัดจับผลู" ในบริเวณนั้นเขาขาดพระที่อาวุโสพออย่างหนึ่ง ปฏิปทาของเราเป็นที่พอใจของญาติโยมส่วนใหญ่อย่างหนึ่ง ก็ทำให้โดนจับยัดกลายเป็นเจ้าอาวาสไป โดยเฉพาะพระนักปฏิบัติ ถ้าหากว่าชอบความเงียบ ชอบความสงบ พอมาเป็นเจ้าอาวาส ถ้าปรับตัวใช้งานเป็นกรรมฐานไม่ได้ จะทุกข์แล้วก็เครียดมาก เนื่องเพราะว่าภาระทุกอย่างตกอยู่บนบ่าเจ้าอาวาส
อย่างของวัดท่าขนุนของเรา กระผม/อาตมภาพมอบเงินเดือน ๕,๐๐๐ บาทให้แม่ชีชื่น (อุบาสิกาชื่น ศรีสองแคว) ไว้จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ปรากฏว่าปัจจุบันนี้ค่าไฟอยู่ที่เดือนละ ๕๐,๐๐๐ บาทโดยประมาณ..! แล้วคิดว่า ๕,๐๐๐ บาท พอยาขี้ฟันไหม ? ถ้าไม่มีตู้จำหน่ายวัตถุมงคล ไม่มีตู้สังฆทาน รับประกันว่าไปไม่รอด อย่างวันนี้แม่ชีก็มาเบิก ๔๐,๐๐๐ บาท เพราะว่าส่วนอื่น พอที่จะเปิดตู้แล้วสมทบเข้าไปได้ พวกท่านลองคิดดูว่า แค่ค่าไฟอย่างเดียว ถ้าท่านเป็นเจ้าอาวาสแบกไหวไหม ? ไม่ใช่ถึงเวลาก็เปิดพัดลมกันทั้งวันทั้งคืน..!
คำว่า เจ้าอาวาส สมัยก่อนเขาเรียกว่าสมภาร เสมอด้วยภาระ ก็คืองานทุกอย่าง ตกลงบนบ่าสมภารทั้งหมด ไม่ว่าจะเทศน์ จะสั่งจะสอนอะไร ก็ลงตรงนั้นหมด แล้วถ้าสมภารอาวุโสน้อย บรรดาทายก หรือกรรมการวัด แม้กระทั่งชาวบ้านก็ไม่เกรงใจ ใครไม่ได้เป็นสมภาร ไม่รู้หรอกว่าภาระหนักแค่ไหน การบริหารวัดให้ดี ถ้า "อยู่อาศัยวัด" ไปวัน ๆ ก็แล้วไป แต่ถ้า "อยู่แล้ววัดได้อาศัย" นี่ลำบาก ประมาณว่าต้องตื่นก่อน นอนทีหลัง เป็นผู้นำในทุกเรื่อง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2024 เมื่อ 03:01
|