ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 26-03-2010, 00:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓

ขยับขยายนั่งในท่าที่สบายของตัว สำหรับวันนี้ก็เป็นวันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานเดือนมีนาคมในวันที่สอง

เมื่อครู่เราได้กล่าวถึงเรื่องของการปฏิบัติของคนอิสลาม ที่ท่องคัมภีร์อัลกุรอานแล้วเกิดอภิญญาขึ้นได้ เราจะเห็นได้ว่า ขอเพียงเรามีความเชื่อมั่นและกระทำจริงจังไม่ย่อท้อ ย่อมเกิดความสำเร็จได้ ไม่ว่าจะเป็นชาติใด ภาษาใดก็ตาม

คราวนี้ถ้าจะนับเนื่องไปแล้ว ในสายกรรมฐานของเรานั้น ต้องเรียกว่า มีชื่อเสียงขึ้นมาก็ด้วยมโนมยิทธิ คือ การมีฤทธิ์ทางใจ สามารถที่จะกำหนดจิตไปดูภพภูมิต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนรก เปรต อสุรกาย เทวดา มาร พรหม ตลอดจนพระบนนิพพานได้

ในเมื่อเป็นดังนี้ ก็ขอให้ทุกท่านอย่าได้ทิ้งในส่วนของมโนมยิทธิ ท่านใดที่ทำได้แล้วให้ซักซ้อมเอาไว้บ่อย ๆ ท่านใดที่ยังทำไม่ได้ ให้ตั้งใจนำเอาพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เรารักเราชอบ มาวางตรงหน้าของเราในระดับที่สายตามองได้สบาย ในระยะที่ไม่ห่างจนเกินไป ไม่ใกล้จนเกินไป ลืมตามองภาพพระนั้น แล้วหลับตาลง กำหนดจำภาพพระไว้ พร้อมกับกำหนดคำภาวนา จะว่าพุทโธก็ได้ นะมะพะธะก็ได้ สัมมาอะระหังก็ได้ แล้วแต่เราถนัด

เมื่อภาพพระนั้นเลือนหายไป เราก็ลืมตาดูใหม่ แล้วลืมตานึกถึง กำหนดคำภาวนาและลมหายใจต่อไป ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เป็นร้อย..เป็นพัน..เป็นหมื่น..เป็นแสนครั้ง นานไป ๆ ความรู้สึกนั้นจะชัดเจน แม้เราหลับตาอยู่ก็กำหนดรู้ภาพพระได้ชัดเจนแจ่มใสมาก ถ้าอย่างนั้นเขาเรียกว่า อุคคหนิมิต

ถ้าหากเป็นพระแก้ว ก็เป็นอุคคหนิมิตในอาโลกกสิณ ถ้าเป็นพระพุทธรูปสีขาว ก็เป็นอุคคหนิมิตในโอทาตกสิณ ถ้าเป็นพระพุทธรูปสีเหลืองหรือสีทอง ก็เป็นอุคคหนิมิตในปีตกกสิณ ถ้าเป็นพระพุทธรูปสีเขียว ก็เป็นอุคคหนิมิตในนีลกสิณ เป็นต้น

เมื่อทำได้ดังนั้นแล้ว เราก็ต้องกำหนดสมาธิ เอาจิตจดจ่ออยู่กับภาพพระนั้น ไม่ว่าจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม ความรู้สึกส่วนหนึ่งต้องเอาไว้ที่ภาพพระนั้นเสมอ ๆ การที่เราต้องจดจ่อต่อเนื่องอยู่เช่นนั้น ในเรื่องของกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง จะไม่สามารถกินใจเราได้ชั่วคราว จิตใจที่สงบนิ่งก็จะมีกำลัง มีความผ่องใสเกิดขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2010 เมื่อ 02:33
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา