ดังนั้น..วันนี้ภารกิจที่สำคัญก็คือไปตามที่หมอช่วยรักษาให้ แล้วสิ่งที่กระผม/อาตมภาพเป็นอยู่มาก ๆ ในปัจจุบันนี้ก็คือ อาการที่เขาเรียกกันง่าย ๆ ว่า "กระดูกทับเส้น" มีการปวดร้าวลงขา ลงสะโพก ต้องหาท่ากายบริหารต่าง ๆ มาบริหารตัวเอง เพื่อบรรเทาอาการ เมื่อมีโอกาสได้พบหมอที่จัดกระดูกทีหนึ่ง ก็สบายขึ้นทีหนึ่ง บางทีเพิ่งจะจัดเสร็จ นั่งรถยังไม่ทันจะกลับถึงที่พัก รถตกหลุม..กระแทกโครมเดียวก็กลับไปเหมือนเดิมแล้ว..!
ก็ได้แต่นั่งปลงอนิจจังว่า เออหนอ..เราช่างสร้างกรรมเอาไว้หนักขนาดนี้ คุณหมอแต่ละท่านแต่ละโรค ล้วนแล้วแต่พยายามรักษาอย่างดีที่สุด แต่ก็เหมือนอย่างกับประชดก็ไม่ปาน พอลับหลังหมอ อาการทุกอย่างก็กลับเป็นอย่างเดิมทันที แต่ก็ยังดีว่าได้รับการบรรเทาไปชั่วขณะหนึ่ง
ทำให้นึกถึงว่า ถ้าเราอยู่ในโลกันตนรก เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครั้งหนึ่ง พระรัศมีแผ่ผ่านไปวาบหนึ่ง เหมือนอย่างกับสายฟ้าแลบ บรรดาผู้ที่ตกอยู่ในความมืดชั่วกาลนานอย่างสัตว์ในโลกันตนรก ก็จะได้เห็นแสงสว่างอยู่วูบหนึ่ง กระผม/อาตมภาพก็คงคล้าย ๆ กับตกโลกันตนรกเหมือนกัน ก็คือเศษกรรมทำให้ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย รักษาแล้วก็สบายได้แค่วูบเดียว..!
ดังนั้น..ในเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บอันน่ากลัวนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีกต่อไปแล้ว ถ้าหากว่าชาตินี้ สามารถตะเกียกตะกายไปถึงพระนิพพานได้ กระผม/อาตมภาพก็จะพยายามทำไปจนสุดความสามารถ ทำไปจนกว่าจะสิ้นลม ตามที่ครูบาอาจารย์ได้ให้คำสั่งสอนเอาไว้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2024 เมื่อ 01:27
|