กระผม/อาตมภาพเมื่อเข้าใจดังนั้น จึงเริ่มทำการปล่อยปลามาตามที่ครูบาอาจารย์ท่านบอก โดยที่เริ่มปล่อยในวันที่ ๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๙ เป็นต้นมา พูดง่าย ๆ ว่าปีที่บวชนั่นเอง ปล่อยมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ แล้วรู้สึกว่าการงานทุกอย่างมีความคล่องตัวจริง ๆ อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านให้คำแนะนำไว้
โดยเฉพาะทุกครั้งที่ปล่อยปลา ก็ไม่ได้ซื้อแค่ตัวสองตัว อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านแนะนำไว้ เนื่องเพราะว่าพอเห็นปลาตาปริบ ๆ ก็มักจะเหมาหมดร้าน หรือว่าเหมาหมดตลาด แล้วก็เอาไปปล่อยลงแหล่งน้ำ ทำอย่างนี้มาปีแล้วปีเล่า ผลที่เกิดชัดเจนที่สุดก็คือวังมัจฉาหน้าวัดท่าซุง นั่นเกิดจากการที่กระผม/อาตมภาพปล่อยปลาแทบจะคนเดียว..!
แล้วเมื่อมาถึงปัจจุบันนี้ เรื่องของกรรมต่าง ๆ แม้ว่าจะบรรเทาลงแล้ว แต่ก็ยังหนักอยู่ดี พูดง่าย ๆ ว่าหากท่านทั้งหลายเป็นอย่างกระผม/อาตมภาพ อาจจะตายไปแล้วหลายรอบ แต่กระผม/อาตมภาพก็ยังสามารถที่จะ อึด ถึก ทน อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่อายุ ๖๕ ปีเต็ม ย่างเข้า ๖๖ ปีแล้ว
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ยังบอกว่า "ไอ้คนหนุ่มมันดีอย่างนี้นี่เอง ดูสิ..เดินฉับ ๆ ไม่เห็นจะต้องเกาะต้องอะไรเหมือนกับผมเลย" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่หัวเราะ กราบเรียนว่า "หลวงพ่อครับ หลวงพ่ออายุ ๘๐ กว่า กระผมเพิ่งจะ ๖๐ กว่า แต่ ๖๐ กว่านี้ไม่น่าจะใช่คนหนุ่มนะครับ" ท่านก็หัวเราะเช่นกัน บอกว่า "ถ้าสำหรับคน ๘๐ กว่าแล้ว คน ๖๐ กว่าก็คือคนหนุ่มนั่นเอง..!"
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องเห็นความสำคัญในการนัดของหมอ หรือจะเรียกว่าเห็นแก่เงินก็ได้ เพราะว่าทุกครั้งที่หมอรักษาให้ ก็มักจะถวายค่ารถกลับมา ๑,๐๐๐ บาทบ้าง ๒,๐๐๐ บาทบ้าง บางทีก็มีญาติโยมไปดักรออยู่ที่ร้านหมอ ถึงเวลาก็ชิงถวายมาอุตลุดไปหมด กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ถอนใจตัวเองว่า คนอื่นไปหาหมอแล้วต้องเสียเงิน แต่กระผม/อาตมภาพไปหาแล้วหมอต้องเสียเงิน..! กลายเป็นอะไรที่ย้อนแย้งกันพิกล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2024 เมื่อ 01:25
|