ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 08-05-2024, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปถึงวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ตั้งแต่ ๖ โมงเช้า เพื่อเข้าร่วมลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์ เนื่องในวันพระแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นวันพรุ่งนี้ก็จะเข้าสู่เดือน ๖ แล้ว

ความจริงแล้วการลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์นั้น ถ้าเป็นตามพระธรรมวินัยแล้ว ท่านให้ลงในช่วงบ่าย เนื่องเพราะในพระวินัยระบุว่าเมื่อตะวันบ่ายคล้อยไปแล้ว ก็แปลว่าตั้งแต่หลังเที่ยงเป็นต้นไป แต่ว่าหลายแห่งก็ลงอุโบสถในเวลาค่ำกันไปเลย เพราะว่าต้องรอให้แน่ใจว่าไม่มีพระอาคันตุกะในบริเวณใกล้เคียง มาลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์ด้วยกัน

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า
ในอดีตพระภิกษุนั้นมีความเคร่งครัดในพระวินัยมาก และการลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน เป็นเรื่องที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติเอาไว้ ถ้าละเมิดก็แปลว่าศีลขาด..!

บางรูปบางท่านอาศัยอยู่ในป่า หรือว่าในสถานที่ทุรกันดาร กว่าจะเดินทางออกมาถึงวัดที่มีอุโบสถ แล้วมีพระวินัยธรผู้ทรงพระปาฏิโมกข์ บางทีก็เป็นเวลาเย็นย่ำ หรือว่าค่ำลงไปแล้ว เป็นต้น จึงทำให้วัดนั้น ๆ ตัดสินใจลงอุโบสถทบทวนพระปาฏิโมกข์กันในช่วงค่ำไปเลยทีเดียว ส่วนทางวัดท่าขนุนนั้น เราลงอุโบสถกันเวลา ๑๓.๓๐ น. ก็คือบ่ายโมงครึ่ง แปลว่าต้องการให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย

ส่วนการลงอุโบสถนั้นระยะหลังนี้ วัดวาอารามเจริญกันมาก ส่วนใหญ่ก็มีอุโบสถกันเกือบทุกแห่ง แม้แต่สำนักสงฆ์ หรือที่พักสงฆ์บางแห่ง ก็สร้างอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่รอเวลาในการยกขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ หรือว่าเป็นวัดเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-05-2024 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา