กระผม/อาตมภาพเองบวชใหม่ ๆ ต้องหางานให้ตัวเองทำ งานแรกเลยก็คือทำความสะอาดศาลานวราชบพิตร ที่หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านลงรับแขกที่นั่นทุกวัน ไปทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูทุกวัน โดยเอาอิริยาบถและสัมปชัญญะ ในมหาสติปัฏฐานสูตรเข้าไปจับ ไม้กวาดจะไปข้างซ้าย จะไปข้างขวา จะไปข้างหน้า จะไปข้างหลัง กำหนดรู้ตามไป ไม้ถูจะไปข้างซ้าย จะไปข้างขวา จะไปข้างหน้า จะไปข้างหลัง กำหนดรู้ตามไป ทำงานแบบมีความสุขมาก ไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่าตัวเองเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่ศาลาหลังใหญ่มาก
นี่คือสิ่งที่จะบอกกับพวกเราบางคน ที่มีความรู้สึกว่าตั้งใจมาอยู่ที่นี่ เพื่อที่จะได้ปฏิบัติธรรม แล้วทำไมกลายเป็นต้องทำงานวัดมากมายมหาศาลแทน ? อยากจะบอกว่า ถ้าใครคิดแบบนั้นก็โง่เต็มที เนื่องเพราะว่าการทำงานทุกอย่าง ถ้าเอาสติจดจ่ออยู่เบื้องหน้า ก็เท่ากับเป็นกรรมฐานทั้งสิ้น
ท่านที่ต้องการไปนั่งนิ่ง ๆ เจริญกรรมฐานอย่างเดียว กระผม/อาตมภาพให้เต็มที่แค่ ๓ ชั่วโมง ก็จะบ้าแล้ว..! เนื่องเพราะว่าสภาพจิตของเราต้องมีการเสวยอารมณ์ต่าง ๆ ถ้าเราไม่รู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว ไม่รู้จักหางานอื่นทำ เมื่อสภาพจิตเครียดก็ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุดก็จะไปคิดว่า ออกไปท่องโลก ดูท่าว่าจะช่วยได้ ก็คงจะกลายเป็นหมาจิ้งจอกขี้เรื้อนไปเท่านั้นเอง..!
ก็ได้แต่หวังว่า ท่านทั้งหลายเมื่อฟังตรงนี้แล้ว น่าจะไม่ปล่อยให้ "เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา" เพราะกระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าพูดมาหลายครั้งแล้ว แต่เราท่านทั้งหลายก็คงโดนกิเลสตีแทบตายอยู่ทุกวัน ไม่ใช่ว่าไม่เคยปรากฏกามสัญญาเลยอย่างพระอานนท์ แต่ของเราปรากฏวันละหลายสิบรอบ..! ในลักษณะนั้นก็แปลว่าเราทำผิด
ปัจจุบันนี้ถ้าหากว่าปฏิบัติธรรมไปนาน ๆ แล้วไม่เกิดผล ให้รู้ด้วยว่าเราทำผิดวิธี แล้ววิธีการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เราต้องรู้จักปรับให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะว่าครูบาอาจารย์ หรือแม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น เราต้องใช้ปัญญาในการพลิกแพลงให้เหมาะสมกับตัวเรา แต่อย่าให้หลุดไปจากกองกรรมฐานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นเอง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-04-2024 เมื่อ 01:22
|