แล้วก็ดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ พวกที่ไม่เอาการเอางานเลยจะไม่มาอยู่วัดนี้ ชาวบ้านแถวนี้เคารพหลวงปู่สายมาก เหมือนอย่างกับเทพเจ้าในสายตาของเขา จะบวชลูกวัดไหนก็แล้วแต่ จะแห่นาคมากราบขอขมาหลวงปู่ก่อน แล้วค่อยไปบวช แต่กูจะไม่บวชวัดนี้เด็ดขาด..! เขาบอกว่าวัดนี้เคร่ง..!
แล้วพวกเราเห็นว่าวัดนี้เคร่งตรงไหน..? ก็แค่ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย เพียงแต่ว่าทำจริงเท่านั้น ก็คือทำไม่เว้น ทำไม่เลิก ทำตรงเวลา ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเราจะเห็นว่า สภาพสังคมที่อยู่กันด้วยหลักธรรม ไม่ต้องมีกฎหมายก็อยู่ได้
แต่ปัจจุบันนี้สังคมแบบนั้นเลือนลางจืดจางไปแล้ว ขนาดมีกฎหมายยังไม่ค่อยจะยอมรับกัน โดยเฉพาะในวงการพระสงฆ์ของเราซึ่งต้องถือพระธรรมวินัยเป็นใหญ่ ถ้าปรากฏว่าทำผิดก็คือต้องอาบัติศีลขาด ก็เป็นอันว่าผิดแล้ว เสียหายแล้ว ถ้าสามารถทำคืนได้ก็แก้ไขไป ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็คือขาดความเป็นพระในทันที แต่สมัยนี้เขารอให้ศาลตัดสิน..มันใช่หรือ..!?
คุณละเมิดศีล คุณขาดความเป็นพระ ยังต้องให้ศาลตัดสินถึงจะขาดหรือ..? ศาลชั้นต้นตัดสินก็ยังอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ตัดสินก็ยังฎีกา ศาลฎีกาตัดสินกูยังฟ้องศาลปกครองต่อ..!
ถ้าท่านทั้งหลายไปอ่านในพระไตรปิฎก จะเห็นในวินัยปิฎกคือส่วนที่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติศีลขึ้นมาในมูลบัญญัติ หรือวินีตวัตถุคือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ต้องมีการบัญญัติศีลขึ้นมา เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสถามบุคคลผู้ล่วงละเมิดว่า "ดูกร..โมฆบุรุษ เธอกระทำเช่นนั้นจริงหรือ ?" พระสมัยนั้นตอบว่า "จริงพระเจ้าข้า" ไม่เห็นมีใครบิด ๆ เบี้ยว ๆ เลย ไม่เห็นมีใครบอกว่า "น้ำที่ห้องไม่ไหล ก็เลยต้องอาศัยอาบที่ห้องแม่บุญธรรม..!" เรื่องเดียวกันหรือเปล่า..?!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2024 เมื่อ 03:02
|