ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จัดงานสงกรานต์แบบไม่ใช้หัวแม่เท้าคิด..! ก็คือจะให้ทุกอำเภอไปร่วมงานด้วย โดยที่ลืมไปว่าเรื่องของสงกรานต์นี่ แทบจะทุกหมู่บ้านเขาก็จัดกันเอง แต่คุณจะให้ทุกคนไปร่วมงานด้วย แล้วเขาจะปลีกตัวไปอย่างไร ?
และแจ้งมาว่าพรุ่งนี้ถึงจะจ่ายค่าอาหารและค่าเดินทางให้ กระผม/อาตมภาพเลยตอบไปในกลุ่มไลน์ว่า "ตกลงให้เด็กรอกินข้าวเย็นพรุ่งนี้ ?" คือค่าใช้จ่ายให้เขาเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น เขาจะได้บริหารจัดการได้ ไม่ใช่รอให้ทำงานเสร็จแล้วค่อยไปเบิก..!
เรื่องพวกนี้ต้องโทษพวกเรากันเอง ถามว่าโทษพวกเราตรงไหน ? ก็ตรงที่ว่า ทำไมยิ่งอยู่ไปความไว้วางใจในเพื่อนมนุษย์ถึงได้น้อยลงไปเรื่อย ๆ ขอบ่นเป็นคนแก่ว่า สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ ขึ้นบ้านได้ทุกบ้าน เดินทะลุได้ยันห้องครัว หลายต่อหลายบ้านก็ไม่ได้มีรั้วรอบขอบชิดอะไร เนื่องเพราะว่าทุกคนอยู่ในศีลกินในธรรม เรื่องของการลักขโมยกัน ถ้าทำให้เสียหายถึงวงศ์ตระกูลนี่ต้องบอกว่า จะโดนสังคมกดดัน จนอยู่แถวนั้นไม่ได้อีกเลย..!
แล้วปัจจุบันของเราสภาพสังคมแบบนั้นหายไปไหน..? ทำไมเรากลายเป็นยอมรับว่า ถ้าคนมีเงินแล้วก็เป็นอันว่าดี เขาจะหาเงินมาด้วยวิธีไหนเราไม่ต้องสนใจ..!?
ทุกวันนี้แม้แต่วัดท่าขนุนของเราก็กลายเป็นวัดประหลาดในสายตาคนอื่น อย่างกระผม/อาตมภาพขอมติคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิว่า ถ้ามีพระภิกษุสามเณรทำผิดระเบียบวัด โดนไล่ออกแล้ว วัดและสำนักสงฆ์อื่นทั้งหมดห้ามรับเข้าอยู่อาศัย พูดง่าย ๆ คือต้องให้พ้นจากอำเภอไปเลย..!
เรื่องของวัดท่าขนุนก็คือถ้าไม่สวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ร่วมกัน ถือว่าทำผิด ตักเตือนแล้วไม่ฟังก็ไล่ออก เพื่อนพระสังฆาธิการถามว่า "เรื่องแบบนี้เขาไล่ออกกันด้วยหรือ ?" หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อกระผม/อาตมภาพตั้งกฎเกณฑ์กติกาของวัดเสร็จสรรพเรียบร้อย ได้นำไปถวายให้ท่านดู ท่านอ่านแล้วบอกว่า "เดี๋ยวคุณก็ได้อยู่คนเดียว..!" แล้วปัจจุบันนี้ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า พระวัดท่าขนุนมี ๕๐ กว่ารูป กระผม/อาตมภาพไม่เห็นว่าจะอยู่คนเดียวเลย..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2024 เมื่อ 02:59
|