ส่วนกระผม/อาตมภาพก็มาต้อนรับคณะของหลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร ซึ่งเพิ่งจะไปหางานใส่ตัวมา ด้วยการรับบูรณะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ซึ่งทองที่หุ้มองค์พระธาตุนั้น โดนพายุลูกเห็บกระหน่ำจนชำรุดไปมาก
ปรากฏว่าช่วงที่ไปรับงาน เจอราคาทองขึ้นพรวด ๆ มา จนตอนนี้บาทหนึ่งก็ ๔๐,๐๐๐ กว่าบาทเข้าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพยังขำ ปรารภกับท่านว่า เป็นเรื่องของคนมีบารมี ทำอะไรถ้าราคาไม่สมกับบารมี ก็รู้สึกว่าจะไม่ตรงกับกำลังใจของเรา หลังจากนั้นหลวงพ่อนิลกับคณะก็ขออนุญาตถวายน้ำสรงช่วงสงกรานต์ เมื่อรับน้ำสรงเสร็จสรรพเรียบร้อย ท่านก็ลากลับไปยังจังหวัดสกลนคร ซึ่งยังห่างจากที่นี่อีก ๗๐ กว่ากิโลเมตร
กระผม/อาตมภาพกลับไปยังที่พัก เพื่อที่จะพูดคุยกับหลวงพ่อพระครูกิตติธรรมนิวิฐ ถึงแนวทางที่เราจะดำเนินการต่อไปว่า ทางด้านวิชาการ ควรจะมอบหมายให้แก่ใคร ทางด้านการติดต่อประสานงาน ควรจะมอบหมายให้แก่ใคร และการวางแผนบริหาร ควรจะมอบหมายให้แก่ใคร ส่วนเรื่องงบประมาณนั้นไม่ต้องห่วง กระผม/อาตมภาพพร้อมรับจ่ายทุกกรณีอยู่แล้ว
แต่ว่าในส่วนที่ปรึกษาหารือกันมากก็คือ การที่จะจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา ในโอกาสอย่างนี้ควรเป็นอย่างยิ่งที่คณะพระวิปัสสนาจารย์ของเราจะจัดกิจกรรมต่าง ๆ
โดยเฉพาะการเดินธุดงค์ธรรมยาตรา เพื่อที่ว่าถึงเวลาไปถึงวัดไหนแล้ว เราไปแสดงธรรม นำเอาปัจจัยที่ได้รับนั้น มอบถวายให้แก่ทางเจ้าของวัด เพื่อร่วมในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่าง ๆ เป็นการแบ่งเบาภาระเจ้าของวัดอย่างหนึ่ง เป็นการร่วมในการพัฒนาพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอีกอย่างหนึ่ง ไม่ปล่อยให้คนอื่นรู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยว ไม่มีคนสนใจ ถึงเวลาแล้วอาจจะน้อยอกน้อยใจ สึกหาลาเพศไปก็มี แต่ถ้าหากว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงนั้นมาช่วยกันสนับสนุน ก็จะมีกำลังใจที่จะอยู่ช่วยงานพระพุทธศาสนากันต่อไป
ลำดับต่อไป กระผม/อาตมภาพก็คงจะต้องออกไปบรรยายถวายความรู้ และถวายกำลังใจแก่คณะธุดงค์ธรรมยาตราในครั้งนี้ สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-10-2024 เมื่อ 22:26
|