ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 06-04-2024, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,685
ได้ให้อนุโมทนา: 151,965
ได้รับอนุโมทนา 4,417,704 ครั้ง ใน 34,275 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราท่านทั้งหลายจะเห็นว่า อย่างในปัจจุบันนี้บางทีสิ่งที่พระสงฆ์บางรูปท่านทำ ก็ไม่ได้คำนึงถึงสมณสารูป อย่างเช่นเมื่อวานนี้ มีคลิปหนึ่งที่พระสงฆ์ท่านขับรถยี่ห้อดาวสามแฉกออกบิณฑบาต แล้วก็ไปพูดกับชาวบ้านว่า "อาตมภาพรวย ขับรถได้" ซึ่งเรื่องนี้ถ้าหากว่าจะปรับอาบัติกัน ก็สามารถที่จะปรับได้อย่างแน่นอน เพราะว่าอันดับแรกเลย ก็คือ "กระทำอาการประหนึ่งฆราวาส" ประการที่สองก็คือ "ไม่เอื้อเฟื้อในพระวินัย"

ส่วนในเรื่องของกฎหมายนั้น ท่านก็ห้ามพระขับรถอยู่แล้ว ถามว่ามีกฎหมายข้อไหนห้ามพระขับรถ ? ก็คือมติของมหาเถรสมาคม ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าห้ามพระภิกษุสงฆ์ขับรถ ในเมื่อเป็นมติของมหาเถรสมาคม แปลว่าต้องบังคับใช้ในหมู่พระสงฆ์ ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายส่วนหนึ่งนั่นเอง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็แปลว่า ท่านนอกจากจะขาดความระมัดระวังในศีลแล้ว ยังไปล่วงเอากฎหมายเข้าไปอีก กลายเป็นโลกวัชชะ ก็คือผิดศีลแล้วยังโดนโลกติเตียนอีกด้วย แต่ท่านเองอาจจะไม่รู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นความผิด ประมาณว่าในเมื่อเรามีรถดี ๆ ราคาแพง เราก็อยากที่จะขับออกไปอวดชาวบ้านเขา..!

ตรงจุดนี้ท่านกำลังวางตนผิดไปจากหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องเพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าวางฐานะของพระภิกษุไว้ในฐานะของผู้ขอ ก็แปลว่ามีสถานภาพเดียวกับขอทาน ขอทานนั้นจะต้องต่ำต้อย ลำบากยากจน คนถึงจะสงสารและอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ ถ้าหากว่าเป็นขอทานแล้วทำตัวอวดร่ำอวดรวย คาดว่าคงไม่มีใครอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้ ดีไม่ดีก็จะพาให้พรรคพวกอดอยากไปด้วย เพราะชาวบ้านจะเหมารวมกันว่าพวกเดียวกัน..!

ส่วนอีกรายหนึ่งนั้น จิตหยาบหนักกว่านั้นเข้าไปอีก ก็คือมีการทำน้ำอสุจิให้เคลื่อนโดยเจตนา ก็คือสำเร็จความใคร่ให้กับตัวเอง ถ้าแค่นั้นยังถือว่าโทษหนักสาหัสแล้ว ท่านยังมีโทษหนักเข้าไปอีก ก็คือถ่ายคลิปเอาไว้ แล้วยังส่งไปให้คนอื่นเขารู้เห็น เมื่อถึงเวลามีผู้เข้าไปสอบถาม ท่านก็ยังเถียงอีกว่ามีใครที่ไม่เคยทำบ้าง ?

ในลักษณะนี้ นอกจากท่านจะล่วงอาบัติหนักแล้ว สภาพจิตของท่านยังหยาบหนา ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นเป็นความผิด โดยเฉพาะผิดในอาบัติหนัก ที่ถึงขนาดขาดความเป็นพระชั่วคราว จนกว่าจะได้รับการลงโทษ ที่เรียกได้ว่าอยู่ปริวาส ครบถ้วนตามจำนวนที่พระวินัยกำหนดเอาไว้แล้ว ต้องมาขอให้พระสงฆ์อย่างน้อย ๒๐ รูป สวดคืนความเป็นพระให้ ท่านถึงจะกลับคืนเป็นพระมาอีกครั้งหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2024 เมื่อ 00:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา