วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพเดินทางออกจากวัดอุทยานตั้งแต่ตีสามครึ่ง ด้วยความเมตตาของพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน นำรถตู้ของวัดไปส่งกระผม/อาตมภาพและคณะ ที่อาคาร ๑ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
เมื่อไปถึงปรากฏว่าในคณะมากันหลายคนแล้ว ขณะเดียวกันก็มีผู้ที่กำลังเช็คอินอยู่หลายร้อยคน ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าจะแห่กันไปที่ไหน ถึงได้มากมายขนาดนั้น ดีที่ทางด้านเติมเต็มทราเวลของลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ได้ทำการอนุเคราะห์สงเคราะห์ จัดให้หลวงตาไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์พิเศษคนเดียว ทำให้มีความคล่องตัวอย่างมาก
เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว จึงได้ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง เพื่อที่จะไปรอขึ้นเครื่อง ปรากฏว่าคณะที่มานั้น มีหลายท่านที่รู้จักคุ้นเคยกันมาแต่ดั้งเดิม ในขณะเดียวกันหลายท่านก็เป็นบุคคลที่เคยทำบุญกับวัดท่าขนุน แต่ว่าไม่ได้มีการเสวนากันอย่างจริงจังนัก เมื่อถึงเวลาทางเจ้าหน้าที่ของแอร์เอเชียประเทศไทย ก็ได้เรียกให้ขึ้นเครื่อง โดยนิมนต์กระผม/อาตมภาพขึ้นรถบัสแล้วไปส่งทางท้ายสนามบิน ซึ่งทุกอย่างสำเร็จลงเรียบร้อยลงตามเวลาดีมาก
เมื่อถึงเวลา กัปตันก็นำเครื่องทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง กระผม/อาตมภาพตั้งใจแผ่เมตตา และอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ที่ดูแลท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง ที่รักษาอากาศยานลำที่กระผม/อาตมภาพและคณะกำลังอาศัยเดินทางอยู่ เจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ตลอดเส้นทางที่กระผม/อาตมภาพและคณะได้เดินทาง ไม่ว่าจะเป็นอากาศเทวดาก็ดี รุกขเทวดาก็ดี ภุมมเทวดาก็ดี หรือจะเป็นเหล่าสัมภเวสี เปรต อสุรกาย เดรัจฉานมีฤทธิ์ก็ตาม
ขอให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นได้อนุโมทนาในส่วนบุญกุศลที่กระผม/อาตมภาพได้บำเพ็ญแล้วด้วยดีและอุทิศให้ และขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดเมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ ให้กระผม/อาตมภาพและคณะเดินทางโดยสะดวกปลอดภัย ตลอดเส้นทางด้วยเถิด
เมื่อเครื่องจะลงสู่สนามบินนานาชาตินอยไบ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม กระผม/อาตมภาพกำหนดใจดูไปแล้วก็ใจหายวาบ เนื่องเพราะว่ามีท้าวมหาพรหมที่รัศมีกายสว่างไสวแทบจะกลบกลืนไปทั้งประเทศเวียดนาม ยืนตระหง่านอยู่กลางสนามบิน เมื่อเรียนถามท่านว่า "เป็นท่านใดครับ ?" ท่านบอกว่า "ผมคือติช กวาง ดึ๊ก..!" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็แทบจะทรุดลงไปกราบตรงนั้นเลย หลวงปู่ติช กวาง ดึ๊ก ก็คือพระภิกษุชาวเวียดนาม ที่เผาตนเองประท้วงต่อประธานาธิบดีโง ดินห์ เดียม ผู้นับถือศาสนาคริสต์ แล้วทำการเบียดเบียนต่อศาสนาพุทธอย่างหนักในช่วงนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-03-2024 เมื่อ 00:56
|