ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 27-02-2024, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,474 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนลุงโจนั้น ว่าง ๆ ก็นั่งสานงานฝีมือไปเรื่อย ซึ่งระยะหลังได้ลดระดับตนเองลงมา เนื่องเพราะว่าถ้าจักสานเต็มฝีมือ ขายใบหนึ่ง ๒,๕๐๐ บาท ๓,๐๐๐ บาท ก็มักจะขายยาก เนื่องเพราะว่าราคาสูง จึงได้จักสานภาชนะทั่วไป โดยไม่ต้องอาศัยฝีมือมาก ราคาถูก แต่ว่าจำหน่ายได้มากกว่า โดยเฉพาะในส่วนของร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบท่าขนุน และที่ตลาดริวแควเมืองท่าขนุน ก็มีการรับเอาตะกร้าของลุงโจมาจำหน่ายต่ออยู่แล้ว

แต่ว่าในส่วนนี้นั้น ต้องบอกว่าเป็นงานที่เพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเอง งานหลัก ๆ ก็ยังคงเป็นช่วงเย็น ที่มีการแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ อย่างของเมื่อวานนี้ เด็ก ๆ ที่มาแสดงก็ร้องไห้เสียก่อนก็มี..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าไม่คุ้นเคยกับการเจอคนมาก ๆ แล้วเด็กจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อายุเต็มที่ก็ไม่เกิน ๓ ขวบ เมื่อเจอสายตาผู้ใหญ่จ้องอยู่เป็นจำนวนมาก ก็ทนแรงกดดันไม่ไหว แทนที่จะเต้นจะรำตามที่ครูบาอาจารย์สอน ก็ไปนั่งร้องไห้แทน เป็นต้น

ส่วนที่น่าเอ็นดูกว่านั้นก็คือ เมื่อรับรางวัลจากหลวงพ่อแล้ว ก็วิ่งไปที่ร้านค้า ซื้อน้ำบ้าง ซื้อขนมบ้าง อย่างที่ตนเองต้องการ เพราะว่าข้าวปลาอาหารที่ทางวัดเตรียมไว้ อาจจะไม่ถูกใจ หรือว่ากินจนชินแล้ว แต่ว่าอาหารต่าง ๆ ตามร้านนั้น ดูแล้วน่ากินมากเป็นพิเศษ จึงหมายตาเอาไว้ ครั้นรับรางวัลจากหลวงพ่อแล้ว ก็วิ่งเข้าร้านค้าไปตาม ๆ กัน กลายเป็นว่าผู้ที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยจากงานนี้ กลายเป็นพ่อค้าแม่ค้าไปเสียแล้ว..!

สำหรับวันนี้นั้นมีเรื่องที่จะบอกจะกล่าวก็คือ มีการลงภาพในสื่อโซเชียลก็ดี ลงบทสัมภาษณ์ก็ดี พระภิกษุรูปหนึ่ง ซึ่งไว้หนวด ไว้เครา และไว้ผมยาว โดยที่ไม่ยอมโกน อาศัยหมวกไหมพรมปิดบังเอาไว้ โดยตัวเองมุ่นมวยผมเอาไว้ยาวเหยียดเลยทีเดียว แล้วก็มีสื่อสำนักดังไปสัมภาษณ์ไปลงยูทูบ อยู่ในลักษณะที่ว่า ทำไมท่านถึงไม่โกนผม ? ปรากฏว่าพระภิกษุรูปนั้นอ้างว่าตนเองเป็นเกจิอาจารย์สายพระฤๅษี ครูบาอาจารย์ที่สอนมาก็สืบสายมาจากสายพระฤๅษี ดังนั้น..จึงไม่โกนผม แต่ว่าไว้ผมมวยตามแบบพระฤๅษีแทน

กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็ยังรู้สึกว่า เป็นการพูดแบบข้าง ๆ คู ๆ เนื่องเพราะว่าตนเองเป็นพระภิกษุในพระธรรมวินัย ซึ่งองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้มีการกำหนดเอาไว้เลยอย่างชัดเจนว่า พระภิกษุของเราต้องปลงผม โกนหนวด ตัดเล็บ โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงการโกนคิ้ว

แต่ว่าจารีตประเพณีของคณะสงฆ์ไทยก็คือ เมื่อโกนผมก็ให้โกนคิ้วไปด้วย จึงกลายเป็นว่า ในส่วนของศีลก็คือปลงผม โกนหนวด ตัดเล็บ แปลว่าไม่ให้ไว้ทั้ง ๓ สิ่งนี้ยาว อนุญาตให้ไว้ผมได้ไม่เกิน ๒ เดือนติดต่อกัน หรือถ้าหากว่ายังไม่ถึง ๒ เดือน แต่ว่ายาวได้ ๑ องคุลี ก็ให้โกนได้ เหล่านี้เป็นต้น

ในเมื่อมีระบุเอาไว้ชัดเจนแล้ว แปลว่าพระอุปัชฌาย์อาจารย์ของท่านไม่ได้บอกกล่าวสั่งสอน หรือไม่ท่านเองบวชมาแล้วไม่ศึกษาหาความรู้อะไรเลย ซ้ำยังอ้างครูบาอาจารย์สายพระฤๅษีให้เดือดร้อนอีกต่างหาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2024 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา