ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 18-02-2024, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,544 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพพาคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ และคณะกรรมการชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน ไปดูงานที่วัดนาหนอง ตำบลดอนแร่ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เขามีตลาดไตโยน ไตโยนก็คือไทยโยนก เป็นพวกที่โดนกวาดต้อนมาจากเชียงแสนโบราณ อพยพมาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณนั้น แล้วก็ยังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และภาษาของตนเองเอาไว้ได้

แต่ว่าหมดจากรุ่นนี้ไปแล้ว รุ่นหลังก็น่าจะค่อย ๆ จืดจางไป โดยเฉพาะฝีมือการทอผ้า คนที่จะเอาดีทางด้านนี้ต้องทุ่มเทจริงจัง แต่ว่าปัจจุบันนี้วิถีชีวิตของเราไม่ได้บังคับเหมือนแต่ก่อน เมื่อก่อนนี้ ผู้ชายต้องทำไร่ ล่าสัตว์ ผู้หญิงต้องดูแลบ้านเรือน ทอผ้า เลี้ยงลูก ในเมื่อวิถีชีวิตไม่ได้บังคับ ก็ทำให้ความสำคัญของการทอผ้าลดน้อยถอยลงไปเรื่อย แล้วเรื่องที่ยากลำบากแบบนั้น ในปัจจุบันนี้ก็เลยไม่ค่อยมีใครอยากจะทำกัน

ท่านทั้งหลายที่ศึกษาพระไตรปิฎกจะเห็นว่า พระพุทธเจ้ากำหนดให้ข้าวเปลือกเป็นทรัพย์ ก็คือใช้ทดแทนเรื่องของเงินทองได้ แม้กระทั่งตระกูลของพระพุทธเจ้า ก็คือไม่ว่าจะเป็นพระราชบิดา พระเจ้าอา ก็มีชื่อลงท้ายด้วยคำว่า "โอทนะ" คือ "ข้าว" ทั้งนั้น อย่างเช่นว่า สุทโธทนะ โอโตทนะ อมิโตทนะ เป็นต้น

อีกประการหนึ่งที่เป็นทรัพย์ก็คือผ้า สมัยก่อนการทอผ้ายากมาก แคว้นกาสีที่สามารถทอผ้าที่บางเบาและนุ่ม ใส่สบายออกมาได้ จึงเป็นแคว้นที่ร่ำรวยที่สุดในสมัยพุทธกาล เราจะเห็นว่าพอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพอพระทัยเรื่องอะไร ก็จะพระราชทานผ้าให้ อย่างพระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานผ้า ๑ คู่ ให้กับจูเฬกสาฎก แล้วก็เพิ่มเป็น ๒ คู่ ๔ คู่ ๘ คู่ แต่จูเฬกสาฎกนำไปถวายพระพุทธเจ้าจนหมด

แม้กระทั่งถ้าใครศึกษาในเรื่องของประวัติศาสตร์ของเรา จนถึงยุคต้นรัตนโกสินทร์แล้ว ข้าราชการต่าง ๆ ก็ยังมีเบี้ยหวัดและผ้าปี ก็คือกำหนดว่าปีหนึ่งจะได้รับพระราชทานผ้าเท่าไร จะได้รับพระราชทานเงินเท่าไร เงินก็คือเบี้ยหวัด เพราะว่าสมัยก่อนใช้หอยเบี้ยเป็นเงิน จนกระทั่งมาเปลี่ยนเป็นเงินก้อน เป็นเงินแถบ เป็นเงินฮาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-02-2024 เมื่อ 13:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา