แม้แต่การสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีชาตกาลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น กระผม/อาตมภาพก็ยังต้องเอาไปไว้ที่หมู่เรือนไทยชั้นบนสุด ของศาลา ๑๐๐ ปี วัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าถ้าเป็นวัดท่าขนุนแล้ว ก็ต้องเป็นหลวงปู่สายเท่านั้น ถ้าหากเราเอารูปครูบาอาจารย์อื่นไปตั้ง ก็อาจจะมีการกระทบกระทั่งจิตใจของบุคคลบางท่าน ถ้าเขาคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี ขึ้นมา ก็จะเป็นเหตุให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นต้องเกิดโทษหนักขึ้นเสียเปล่า ๆ
แต่ว่าลูกศิษย์ของกระผม/อาตมภาพสมัยนี้ ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมั่นใจในตนเองเกินไป ถึงเวลาก็ออกไปตระเวนโลก โดยไม่ได้คิดว่า การไปตามสำนักต่าง ๆ นั้น ตนเองเอาความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงไปอวดเขา หรือว่าเอาความผิดพลาดพระธรรมวินัยหรือกิเลสของตนไปอวดเขากันแน่..?!
แม้กระทั่งทุกวันนี้ กระผม/อาตมภาพก็ยังไม่กล้าบอกใครอย่างเต็มปากเต็มคำ ว่าตนเองเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง นอกจากศึกษาปฏิปทาของท่านและพยายามปฏิบัติตามเท่านั้น โชคดีที่ได้บวชอยู่กับท่านมา ๗ พรรษา แต่ว่าหลายต่อหลายคนก็ไม่ได้คิดถึงตรงนี้ ว่าสิ่งที่เราทำไป ถ้ามีข้อบกพร่องเขาก็ตำหนิมาถึงครูบาอาจารย์ แต่ว่าถ้าเป็นส่วนดีแล้ว ก็ไม่ได้รับการชมเชยสักเท่าไร เนื่องเพราะว่าบรรดาเสือสิงห์กระทิงแรดในวงการมีมาก ท่านทำดี เขาถือว่าเป็นปกติที่ท่านต้องทำ แต่ถ้าท่านพลาดเมื่อไร ก็แปลว่าท่านโดนยำเละอยู่ตรงนั้นเอง..!
อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้มีผู้ส่งภาพพระธุดงค์ ซึ่งกำลังเดิน ได้ยินว่าจากจังหวัดปทุมธานีจะออกไปภาคอีสาน แล้วมีโยมท่านหนึ่งนิมนต์ขึ้นรถ นำไปส่ง ครั้นถึงจุดที่ตนเองต้องแยกกับท่านแล้ว ถวายปัจจัยให้ท่านก็ไม่รับ แล้วก็มีการสรรเสริญกันใหญ่โต ว่านี่จึงเป็นการธุดงค์อย่างแท้จริง นี่จึงเป็นพระแท้ กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ถอนใจ บรรดา "นักธุดงค์ถนนหลวง" เหล่านี้ ถ้าไม่สร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา อย่างเช่นว่าไปไถเงินชาวบ้าน ก็ไปสร้างความเข้าใจผิดให้กับญาติโยมแบบนี้
ในเรื่องของธุดงควัตรนั้น คือองค์คุณเครื่องขัดเกลากิเลส ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นว่าไม่เป็นการทรมานตนจนเกินไป จึงได้กำหนดขึ้นมา มีทั้งหมด ๓ หมวด ๑๓ ข้อด้วยกัน
หมวดที่ ๑ เรียกว่าจีวรปฏิสังยุตต์ เกี่ยวกับเรื่องของจีวร ได้แก่ ๑. การถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร คือเสาะหาผ้าเก่าที่เขาทิ้งแล้ว นำมาซักมาย้อม แล้วเย็บเป็นจีวรใช้งาน โดยไม่รับคหปติจีวร ก็คือจีวรใหม่ที่มีผู้ถวายทั้งชุด หรือว่าทั้งผืน ดังนั้น..การที่พระภิกษุบางรูปที่เอาผ้าสารพัดสีมาเย็บเป็นจีวร ห่มแบบนั้นมาหลายปี แล้วได้รับการสรรเสริญถึงความสมถะ ท่านกำลังทำผิดพระวินัย..! เนื่องเพราะว่าจะต้องย้อมให้เป็นสีเดียวกัน ไม่ให้ห่มผ้าลายพร้อย เพื่อให้คนอื่นเขาเห็นแล้วไปเข้าใจว่านุ่งห่มผ้าบังสุกุล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2024 เมื่อ 01:51
|