อีกส่วนหนึ่งที่ตั้งใจจะเก็บกลับก็คือสายคาดเอวของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ซึ่งจะว่าไปแล้วก็หายากเป็นอย่างยิ่ง ในชีวิตที่กระผม/อาตมภาพสะสมเครื่องรางของขลังมา แม้แต่ส่วนที่หายากมาก ๆ อย่างเบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง เจ้าของเครื่องรางในตำนาน "เบี้ยขลังวัดนายโรง" นั้น กระผม/อาตมภาพยังมีไว้ครอบครองถึง ๔ - ๕ ลูกด้วยกัน
แต่ว่าหวายคาดเอว หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวนั้น เพิ่งจะเห็นเส้นนี้เป็นเส้นที่สอง และเส้นก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีหัวซึ่งถักด้วยพระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัวอีกต่างหาก จึงได้ตั้งหน้าตั้งตารอว่า ถ้าหากว่าหมดกำหนดลงเมื่อไร จะรีบเรียกคืนจากไอ้ตัวเล็กโดยด่วน
ไม่เช่นนั้นแล้วของที่หายาก ถ้าหลุดมือไป สำหรับคนที่เราไม่รู้จัก ถึงเวลาต้องการที่จะชื่นชมใหม่อีกสักครั้ง ก็ไม่รู้จะไปเรียกหาดูจากที่ไหน ถ้าหากว่าบุคคลที่บูชาไป เป็นบุคคลที่รู้จักมักคุ้น ก็ยังพอที่จะขอมาชื่นชมกันได้บ้าง จึงทำให้ต้องตั้งหน้าตั้งตาลุ้นว่าเมื่อไรจะได้เวลากลางเดือนเสียที
ต่อจากนี้ไปกระผม/อาตมภาพก็ต้องเร่งเดินทาง เพื่อไปเป็นเจ้าภาพในการสวดพระอภิธรรมคืนนี้ จึงต้องบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-02-2024 เมื่อ 01:23
|