กระผม/อาตมภาพจึงได้ทำโครงการสร้างสะพานแขวนหลวงปู่สายหลังใหม่ โดยที่มีการออกแบบไปแล้ว แต่ว่าไม่เป็นที่ถูกใจคณะกรรมการ ทั้งที่แบบนั้นทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยออกแบบให้ฟรี แต่ทางคณะกรรมการตำหนิว่า แบบนั้นออกมาแข็งกระด้างเกินไป ไม่เหมาะสมที่จะเป็นสะพานแขวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ในโอกาสเจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา จึงได้มีการออกแบบใหม่
เมื่อทำขึ้นมาแล้ว เราจะมีสะพานแขวนใหม่ ซึ่งโอ่อ่าอลังการ สมกับพระเกียรติยศ โดยที่กระผม/อาตมภาพได้รับคำแนะนำจากพันเอกวิเชียร ถิ่นวัฒนากูล ผู้ทรงคุณวุฒิของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ให้นำเอาปฏิมากรรมงานไม้ไผ่เข้ามาประกอบด้วย
ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ต้องรอให้ทางด้านสะพานใหม่นี้สร้างเสร็จลง แล้วถึงจะได้ติดต่อทางผู้ที่มีความสามารถเกี่ยวกับปฏิมากรรมไม้ไผ่นี้ มาทำการออกแบบหัว กลาง และท้ายสะพาน ด้วยวัสดุไม้ไผ่ ซึ่งทางอำเภอทองผาภูมินั้นมีมาก และมีสัญลักษณ์ ๗๒ พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวอยู่ด้วย ก็จะกลายเป็นสถานที่โอ่อ่าอลังการ เป็นจุดเช็คอินอีกจุดหนึ่งของอำเภอทองผาภูมิ เชื่อว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้อยู่กับทองผาภูมิมากขึ้น เพราะว่ามีแหล่งท่องเที่ยวที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น
แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น เมื่อเราทำไปแล้ว ก็จะเหนื่อยยากเป็นพิเศษ จึงทำให้เป็นเรื่องที่ต้องอดทน อดกลั้น ต่อสู้ไป ด้วยกำลังใจที่หวังก็คือถ้าชาวบ้านเขาอยู่ดีกินดีแล้ว ก็จะได้มีอารมณ์เข้ามาศึกษาปฏิบัติธรรม เพื่อความสงบชีวิตของตน เมื่อเป็นบุคคลที่มีศีล มีธรรม ก็จะได้สมกับคำว่า ชุมชนคุณธรรม นั่นเอง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2024 เมื่อ 02:28
|