ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ก็ดี โครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ก็ตาม นับว่าติดตลาดแล้ว และทำให้ชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนนั้น ได้รับการยกย่องให้เป็น ๑ ใน ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม ตามโครงการเที่ยวชุมชนยลวิถี ปี ๒๕๖๖ และทางกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้นำเข้าสู่โครงการอารามภิรมย์อีกด้วย
โดยเฉพาะโครงการอารามภิรมย์นี้จะต้องมีความเหมาะสมทั้ง ๔ ด้าน อย่างเช่นว่าด้านสถานที่ ด้านการท่องเที่ยว ด้านการประสานงานระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียนและส่วนราชการ ตลอดจนกระทั่งด้านใฝ่หาความสงบ มีการปฏิบัติธรรม ซึ่งวัดท่าขนุนมีครบถ้วนทั้ง ๔ ด้าน และเป็นอารามภิรมย์ที่เดียว แห่งเดียว ของอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
กระผม/อาตมภาพเห็นว่า สิ่งต่าง ๆ ถ้าปล่อยให้เป็นไปตามนี้ แม้ว่าจะยืนหยัดได้แล้วก็ตาม แต่เราก็ควรที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งหลั่งไหลไปยังสังขละบุรีเป็นประจำ แม้ว่าที่พักของสังขละบุรีในวันธรรมดา คืนหนึ่งก็อยู่ที่ ๑,๕๐๐ บาท ถ้าเป็นวันหยุดก็ถึง ๒,๕๐๐ - ๓,๐๐๐ บาท ทั้ง ๆ ที่ราคาห้องพักในอำเภอทองผาภูมินั้น คืนหนึ่งประมาณ ๖๐๐ บาท ไม่เกิน ๘๐๐ บาท ก็หาพักได้แล้ว แต่นักท่องเที่ยวอยากจะไปร่วมโครงการใส่บาตรที่ "สะพานมอญ" หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ก็ยอมจ่ายแพง เพื่อที่ไปพักที่อำเภอสังขละบุรี ซึ่งต้องเดินทางขึ้นเขาลงห้วยไปอีก ๘๐ กว่ากิโลเมตร
กระผม/อาตมภาพจึงได้ปรึกษาหารือ ร่วมมือกับทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งในขณะนั้น ผู้นำก็คือท่านประเทศ บุญยงค์ ตลอดจนกระทั่งเมื่อท่านประเทศถอนตัวไปลงการเมืองสนามใหญ่ ก็คือสมัครลงผู้แทนราษฎร ทางด้านผู้มาใหม่ ก็คือท่านศราวุธ ศรีทันดร ก็ยังให้ความร่วมมือสืบมา ทั้งยังมีการสนับสนุนจากท่านจิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีตำบลท่าขนุน และท่านสมเกียรติ นาคศรีโภชน์ ซึ่งใส่หัวโขนหลายหัว หัวหนึ่งก็คือรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน อีกหัวหนึ่งก็คือรองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2024 เมื่อ 02:26
|