ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 27-01-2024, 00:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงได้ชื่นชมบรรดาสิ่งที่ท่านได้สร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นดาบเมือง หรือว่า หอก แหลน หลาว ดาบหลังม้า ดาบจีน ดาบไทยเลียนแบบญี่ปุ่น เป็นต้น เห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าทำได้ในฝีมือระดับนี้ ก็เรียกว่าพอที่จะอวดคน พอที่จะจำหน่ายเป็นสินค้าที่ระลึกได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะทุกเล่มนั้น เป็นของทำมือ ที่เรียกกันว่า "แฮนด์เมด"

แต่ได้ตักเตือนไปว่า
งานส่งเสริมอาชีพของชาวบ้านนั้นเหนื่อยยากมาก อย่างที่กระผม/อาตมภาพทำ อันดับแรกเลย เราต้องไปเสาะหาว่ามีใครที่เป็นช่างฝีมือแบบนี้บ้าง เมื่อได้ตัวมาแล้วก็ยังต้องดูว่า สิ่งที่ท่านจะทำนั้น เราต้องลงทุนในส่วนใดบ้าง หลังจากที่ผลิตชิ้นงานออกมาแล้ว ยังต้องหาตลาดให้อีกด้วย อย่างเช่นที่วัดท่าขนุน ในระยะแรกก็หาตลาดให้ โดยการเปิดให้มาจำหน่ายในวัดเวลาที่วัดมีงาน เพราะว่าการส่งเสริมอาชีพนั้น ถ้าหากว่าส่งเสริมให้ทำแล้ว แต่ไม่มีตลาดให้จำหน่าย เขาไม่สามารถจะจำหน่ายเป็นรายได้ ก็จะทำให้เขาหมดกำลังใจที่จะทำต่อ
เมื่อจัดหาตลาดให้แล้ว ก็ยังมีปัญหาว่าไม่มีผู้คนรู้จักตลาด กระผม/อาตมภาพก็ต้องมาช่วยทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ไม่ว่าจะทางสื่อโซเชียลก็ดี ทางแผ่นป้ายโฆษณา หรือว่าทางเว็บไซต์ก็ตาม เมื่อมีการโฆษณาแล้ว ก็ยังต้องมีการจัดงาน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเดินตลาด การจัดงานก็ไม่ใช่เฉพาะสินค้าของเรา จึงต้องร่วมมือกับทางเทศบาล เวลาจัดงานจะได้ดึงความสนใจของบุคคลได้มากขึ้น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จึงทำให้ต้องขยายงานให้กว้างออกไป โดยเริ่มจากการไปขอพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งทางสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิครอบครองอยู่ ขออนุญาตในการรื้อสิ่งปลูกสร้างที่หมดอายุออก แล้วสร้างเป็น "ร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน"

ต่อมาเมื่องานกว้างออกไป คือได้ส่งเสริมในการทำอาชีพต่าง ๆ ของชาวบ้านจนครบทั้ง ๗ ตำบลในอำเภอทองผาภูมิ ก็ต้องขยายงานออกมา ด้วยการสร้างตลาดริมแควเมืองท่าขนุน เมื่อสร้างแล้วก็ต้องดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาบริเวณนั้น ตอนแรกก็ทำโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ซึ่งนักท่องเที่ยวสายบุญเป็นจำนวนมากนิยมมาร่วมงานกัน ทำให้ร้านค้าชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน สามารถที่จะยืนหยัดจนผ่านภาวะวิกฤตมาได้

ครั้นเมื่อมีเงินทุนสำรองเพียงพอที่จะยืนด้วยตนเองได้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็มาสร้าง "ตลาดริมแควเมืองท่าขนุน" แล้วบรรดาคณะกรรมการ ซึ่งกระผม/อาตมภาพแต่งตั้งให้รับผิดชอบตลาดริมแควเมืองท่าขนุนนั้น ก็ทำโครงการ "วันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ขึ้นมา เมื่อมีทั้งวันเสาร์และวันอาทิตย์ ก็สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งหลาย ซึ่งปกติแล้วมีที่ใดใหม่ ๆ แปลก ๆ หรือว่ามีมุมเหมาะ ๆ ที่จะถ่ายรูปตนเองในลักษณะที่เรียกว่า "เซลฟี่" ได้ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะแห่กันไปทันที ทำให้เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับเราไปในตัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2024 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา