ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 12-01-2024, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,473 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งนี้เกิดจากการที่ไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ ในเมื่อไม่มั่นใจว่าจะอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ เราก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วอีกประการหนึ่ง หลายท่านที่เห็นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นงานเยอะมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการโดดเข้าใส่งานด้วยตนเอง เนื่องเพราะว่าถ้าเรายอมลำบากแล้ว เท่ากับเป็นการผ่อนใช้หนี้กรรม ถ้ามีการผ่อนอย่างสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับเรากู้เงินเขามาแล้วส่งดอกเป็นประจำ ก็จะไม่โดนทวงชนิดทบต้นทบดอก มาตูมเดียวแล้วเรารับไม่ไหว เพราะว่าเราโดดเข้าใส่งานเอง เราจะรู้ว่าเรารับได้แค่ไหน แต่ถ้ารอให้วาระกรรมเข้ามาเอง บางครั้งอาจจะถึงตาย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในเรื่องของการก่อสร้างต่าง ๆ กระผม/อาตมภาพถึงได้บอกกับท่านอยู่บ่อย ๆ ว่า บางวันแทบจะไม่เหลือเงินติดกระเป๋า บางคนเห็นเฉพาะตอนรับ แต่ไม่ได้เห็นตอนจ่าย อย่างที่กระผม/อาตมภาพบ่นในวงข้าวอยู่หลายครั้งว่า "นั่งอยู่วัดเฉย ๆ ยังหมดเงินไปหลายล้าน" เพราะว่าเขาตั้งเบิกมา ก็ต้องสั่งธนาคารโอนให้เขาไป

ปัจจุบันนี้มีดำริของผู้บังคับบัญชาระดับท่านเจ้าประคุณสมเด็จ กรรมการมหาเถรสมาคม ที่กล่าวในงานอบรมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบลว่า พระเราอย่าพยายามเป็นหนี้ เพราะว่าถ้าเป็นหนี้แล้วเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นมา สมัยนี้ถ้ามีคดีก็ต้องสึกหาลาเพศไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่าผู้ที่เข้ารับการอบรมนั้น คือระดับเจ้าคณะตำบลที่ต้องดูแลวัดอื่นหลายวัด ก็แปลว่าอายุกาลพรรษาต้องมากทีเดียว พอมีคดีแล้วสึกหาลาเพศไป ก็เป็นที่เสียดายเพศภาวะภิกษุของท่านของท่านมาก

พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ผู้ให้โอวาทถึงได้กล่าวว่า "อย่าเป็นหนี้ใคร ทำแค่กำลังของตน" โดยเฉพาะหลายท่านที่ยืมเงินญาติโยมเขามา พอถึงเวลา เงินเข้ามาก็โอนให้เขาไป เป็นการใช้หนี้ตามปกติ แต่บังเอิญว่าโยมเป็นผู้หญิง แถมหน้าตาดีเสียด้วย..! ไอ้คนเห็นก็ฟุ้งซ่านไปใหญ่โต ว่าพระเอาเงินวัดไปบำรุงบำเรอผู้หญิง ถึงขนาดฟ้องร้องกันมาแล้ว แล้วส่วนใหญ่พระเราก็ทำงานแบบไว้วางใจ เห็นคนอื่นเป็นคนดีเหมือนกัน เรื่องเงินเรื่องทองเมื่อใช้จ่าย ก็มักจะไม่เก็บหลักฐานเอาไว้

กระผม/อาตมภาพโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาถามตั้งแต่ออกจากวัดท่านซุงมาประมาณ ๘ เดือนว่า "แกมีเงินส่วนตัวเท่าไร ?" กราบเรียนท่านว่า "ไม่ทราบครับ เพราะว่ากระผมผลักลงกองกลางหมดเลย" จะอวดครูบาอาจารย์ว่าไม่โลภ ว่าอย่างนั้นเถิด..!

ท่านจึงถามใหม่บอกว่า "แล้วแกใช้เพื่อสงฆ์ไปเท่าไร ?" กราบเรียนว่า "ไม่ทราบครับ" "ใช้เพื่อตัวเองไปเท่าไร ?" "ไม่ทราบครับ" ไม่ทราบครับสองทีเท่านั้น ไม้เท้าลงกบาลเปรี้ยงเบ้อเร่อเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา