อันดับต่อไป ตัวเรามีศีลบริสุทธิ์ ก็คือทรงศีลได้ครบถ้วนตามสภาพ ฆราวาสทั่วไปก็ทรงศีล ๕ อุบาสก อุบาสิกา แม่ชี ก็ทรงศีล ๘ สามเณรทรงศีล ๑๐ พระภิกษุสงฆ์ทรงศีล ๒๒๗ ถ้าลักษณะนี้ เขาถือว่าผู้ให้นั้นมีความบริสุทธิ์
ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าการทำบุญให้ทานทุกครั้ง พระท่านจะต้องให้ศีลก่อน เพื่อเป็นการชำระศีลของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ จะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งให้เราได้รับบุญเต็มที่
ประการสุดท้ายคือผู้รับบริสุทธิ์ ได้แก่พระภิกษุสามเณรนั้น ๆ รักษาศีลได้ครบถ้วนบริบูรณ์เป็นอย่างน้อย ถ้าสามารถทรงฌานสมาบัติได้ก็ยิ่งดี หรือถ้าจะให้วิเศษเลยก็คือ สามารถชำระกิเลสในใจให้เบาบางลงได้ เป็นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันไปจนถึงพระอนาคามิผล ถ้าหากว่าสามารถชำระจิตจนผ่องใสบริสุทธิ์เต็มที่ เป็นพระอรหัตผลได้ก็ยิ่งดีเลิศเป็นอย่างยิ่ง..!
กำลังใจที่ครบทั้งสี่ส่วนก็คือ เจตนาบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ ถ้าอย่างนี้ บุญของท่านจะครบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็ม
เมื่อกล่าวมาถึงแนวทางในการให้ทานสองรูปแบบนี้แล้ว ท่านที่มัวแต่ถ่ายรูป ถ่ายคลิปวิดีโอ ไลฟ์สดอยู่ ท่านมีกำลังใจในลักษณะนี้หรือไม่ ? แทนที่จะจดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับทานของตัวเองตรงหน้า กลับกลัวว่าจะไม่มีรูปไปอัพเฟซฯ กลัวว่าจะไม่ได้ไลฟ์สดให้คนติดตามดู กำลังใจของท่านแบบนี้เท่ากับลดบุญตัวเองลงไปกี่ส่วน..!? ก็ลองประมาณสัณฐานดูกันเอาเอง
แต่ว่าถ้าหากว่าไปเจอพระวัดท่าขนุนไม่รับบุญที่ท่านกำลังทำอยู่ ก็ขอให้รู้ว่า ความผิดพลาดของท่านนั้น จะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งตนเอง ทั้งพระภิกษุสามเณร และอาจจะเสียหายใหญ่ไปถึงพระพุทธศาสนา ด้วยการกระทำอันขาดปัญญา สภาพจิตหยาบจนมองไม่เห็นโทษของท่านเองนั่นเอง ไม่ต้องไปโทษผู้อื่นเลย ถ้าหากว่าไปโกรธพระภิกษุสามเณรเข้า ก็เท่ากับหาไฟมาเผาตนเองเข้าไปอีก ยิ่งก่อให้เกิดทุกข์เกิดโทษหนักกันเข้าไปใหญ่
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2023 เมื่อ 03:45
|