ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 09-11-2023, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,745
ได้ให้อนุโมทนา: 152,166
ได้รับอนุโมทนา 4,420,280 ครั้ง ใน 34,335 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้อยากจะบอกกล่าวต่อเนื่องจากวันก่อน ที่ได้กล่าวถึงอาสาสมัครทหารพรานกรกต เกตุแก้ว ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเป็นรุ่นพี่หรือว่ารุ่นน้อง แต่ตามที่ท่านบอกกล่าวมา ก็คือท่านออกชายแดนเขมรในปี ๒๕๒๘ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นไปตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ เพียงแต่ว่าประสบการณ์ในการรบต่าง ๆ นั้นคล้ายคลึงกันหมด

กระผม/อาตมภาพเองทั้ง ๆ ที่เป็นกำลังทหารหลัก แต่ก็ได้อาสาสมัครทหารพรานช่วยในการรบมาหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งสำคัญก็คือปะทะกับกองโจรเขมรที่ชื่อว่า "ไอ้บอด" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตัวหัวหน้ากองโจรนั้น ตาโดนสะเก็ดระเบิดบอดไปข้างหนึ่ง เที่ยวตระเวนปล้นตามแนวชายแดนไทยอยู่ตลอดเวลา หน่วยทหารไทยปะทะเข้าทีไร ก็มักจะเสียเปรียบตลอดมา

เนื่องเพราะว่าทีมของ "ไอ้บอด" นั้นมีอยู่ ๑๑ คน แต่ว่ามีอาร์พีจี หรือว่าเครื่องยิงลูกระเบิดถึง ๙ กระบอก..! ขณะที่หน่วยทหารของเราในช่วงนั้น ถ้าไม่ถึงระดับหมวดหรือว่ากองร้อย จะไม่มีอาวุธหนักอย่างอาร์พีจี อย่างเก่งก็มีแค่เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๔๐ มิลลิเมตรที่เรียกว่าเอ็ม ๗๙ เท่านั้น

ถ้าหากว่าถึงระดับหมวดขึ้นไป มีอาร์พีจีได้ ๒ กระบอก แต่ว่าจะยิงแต่ละครั้ง ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือก่อน ขณะที่อีกฝ่ายมีอยู่ ๙ กระบอก ยิงได้อิสระตามใจตนเอง..! ปะทะกันเมื่อไร ทหารไทยก็โดนยิงกดจนโงหัวไม่ขึ้น อีกฝ่ายก็เอ้อระเหยลอยชายเผ่นหนีข้ามแดนไป พอถึงเวลาก็เลาะกลับเข้ามาปล้นพี่น้องชาวไทยอีก

วันนั้นหน่วยของกระผม/อาตมภาพปะทะกันจัง ๆ ทั้งหมอบทั้งคลานยิงกันอยู่เกือบ ๒๐ นาที เห็นว่าไม่ไหวแน่ เพราะอีกฝ่ายอาวุธหนักมากเหลือเกิน จึงได้วิทยุขอกำลังเสริม แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ยังรออนุมัติกำลังเสริมอยู่นั้น ทางหน่วยอาสาสมัครทหารพรานที่ตั้งฐานอยู่ใกล้เคียงกันได้รับสัญญาณวิทยุ ก็สอบถามว่าต้องการให้ช่วยเหลือหรือไม่ ? ซึ่งพวกเราก็รีบตอบรับด้วยความยินดี

ปรากฏว่าทหารพรานเหล่านั้นเมื่อมาถึง กระโดดลงจากรถได้ทั้ง ๘ นายก็เดินเรียงหน้ากระดานรัวปืนเข้าไปเลย พวกกระผม/อาตมภาพยังทึ่งว่า พี่น้องทหารพรานนี่ดุเดือดขนาดนี้เลยหรือ ? พวกเราเองหมอบ ๆ คลาน ๆ กว่าที่จะเข้าไปได้สัก ๕ เมตร ๑๐ เมตร ก็เสียเวลาตั้งนาน แต่บรรดาพี่น้องทหารพรานมาถึง ชักแถวเดินเรียงหน้ากระดานก็กราดอาวุธเข้าใส่เลย แบบนี้อีกฝ่ายหนึ่งต่อให้ใจถึงแค่ไหนก็เผ่นกระเจิง..! เนื่องเพราะว่าเจอคนที่ไม่กลัวตายเข้า งานนั้นต้องบอกว่ารอดมาได้เพราะพี่น้องทหารพรานช่วยเหลือแท้ ๆ เลย

แล้วส่วนที่น่าทึ่งก็คือว่า พวกของกระผม/อาตมภาพนอกจากเงินเดือนปกติแล้ว ก็ยังมีเบี้ยเลี้ยงสนาม มีเบี้ยชายแดน มีเบี้ยกันดาร แต่ว่าพี่น้องอาสาสมัครทหารพรานในสมัยนั้น มีแค่เบี้ยเลี้ยงรายวัน ๆ ละ ๓๐ บาทเท่านั้น..! แต่ว่าบรรดาพี่น้องทหารพรานหรือว่า "นักรบชุดดำ" ทั้งหลายเหล่านี้ สร้างคุณประโยชน์เอนกอนันต์ให้กับประเทศชาติและประชาชนคนไทยมานับครั้งไม่ถ้วน

วีรกรรมของท่านทั้งหลายเหล่านี้ ต้องบอกว่าใครที่ร่วมรบด้วยก็ล้วนแต่ต้องยอมรับในความใจถึงพึ่งได้ ตลอดจนกระทั่งความโหดของแต่ละคน ซึ่งไม่ได้เห็นชีวิตของตนเองว่ามีราคาไปกว่าความสงบสุขของประเทศชาติเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2023 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา