ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 02-11-2023, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,661
ได้ให้อนุโมทนา: 151,997
ได้รับอนุโมทนา 4,416,271 ครั้ง ใน 34,251 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปัจจุบันนี้เราสามารถสื่อสารกันด้วยภาษาพูด ก็คือเสียง ภาษากาย ส่วนใหญ่ไปเน้นในบรรดาผู้พิการ โดยเฉพาะพิการทางการได้ยิน ชาติที่ใช้ภาษากายได้อย่างชัดเจนที่สุดก็คือชาวอินเดีย เราจะเห็นว่าถึงเวลาเขาแสดง ไม่ว่าจะสีหน้าท่าทาง มือไม้ร่างกาย สามารถที่จะอ่านออกได้หมดว่าเขาหมายถึงอะไร

ในส่วนของภาษาใจ ส่วนใหญ่แล้วเสื่อมทรามไปหมด ในส่วนของภาษากายก็อยู่ในวงแคบ ก็คือเฉพาะบุคคลที่พิการทางการได้ยิน จึงทำให้การสื่อสารที่ชัดเจน และสามารถสื่อได้กับทุกชาติทุกภาษา แม้กระทั่งทุกภพภูมิของเรา สูญเสียไปอย่างน่าเสียดาย

ถ้าหากว่าเราจะดูตัวอย่าง ขอยกบรรดา "ทาสหมา" ก็แล้วกัน เราจะเห็นว่าหมามีภาษาเสียง ก็คือการเห่า การคราง การออกเสียงลักษณะต่าง ๆ มีภาษากาย ไม่ว่าจะเป็นการแยกเขี้ยว การพองขน การยกหาง แกว่งหาง หรือว่าหางตก หมาไม่จำเป็นต้องเรียนภาษา เอาหมาไทยไปโยนอยู่กับหมาฝรั่ง เขาก็คุยกันรู้เรื่อง หรือเอาหมาฝรั่งไปโยนไว้กับหมาจีน เขาก็คุยกันรู้เรื่อง เพราะว่าเขาใช้ภาษากายเป็นหลัก แล้วก็ยังมีภาษาใจ ซึ่งเป็นส่วนที่เราเสียท่าที่สุด ก็คือส่วนใหญ่หมาจะเข้าใจคน แต่คนไม่เข้าใจหมา..!

ในเมื่อตัวเราโดนจำกัดด้วยภาษา ด้วยช่องทางในการสื่อสาร ด้วยประสาทสัมผัส สิ่งที่ควรจะรู้เห็น หรือว่าโบราณเขารู้เห็นกันเป็นปกติ เราก็ไม่รู้ไม่เห็น แล้วก็เกิดความสงสัยขึ้นมา ทั้งยังพยายามที่จะพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ ซึ่ง
หลักของทางวิทยาศาสตร์นั้น ยังไม่สามารถที่จะตามจิตศาสตร์ได้ทัน จึงกลายเป็นอะไรที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ

คราวนี้ถ้าหากว่าเราเข้าไปยุ่งอยู่ตรงนี้ ก็จะกลายเป็นเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้ง ก็จะทำให้เราเอง ถ้าไม่มั่นคง จะเสียประโยชน์มาก เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า เราไม่ควรกล่าวถึงเรื่องอันเป็นเหตุให้ถกเถียงกัน เพราะว่าเรื่องอันเป็นเหตุให้ถกเถียงกันทำให้จำเป็นต้องพูดมาก บุคคลผู้พูดมาก จิตใจย่อมฟุ้งซ่าน บุคคลที่ฟุ้งซ่านย่อมห่างจากสมาธิ

ดังนั้น..ถ้าหากว่าไม่ใช่รู้จริง อย่าไปยืนยันกับคนอื่น อย่าไปอ้างว่าคนโน้นบอก คนนี้กล่าวถึง ครูบาอาจารย์ท่านนั้นว่าไว้ เนื่องเพราะว่าบางท่านก็มรณภาพไปแล้ว เราไม่สามารถที่จะเอาท่านมายืนยันได้ จึงเป็นเรื่องที่พระภิกษุสามเณรของเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางตัวเป็นกลาง จะเชื่อหรือว่าไม่เชื่อ แล้วแต่ญาติโยมเขา ถ้าใช้ศัพท์วัยรุ่นก็บอกว่า "เอาที่สบายใจ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2023 เมื่อ 01:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา