วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดตะคร้ำเอน หมู่ที่ ๖ ตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อร่วมงานประชุมพหุภาคีของอำเภอท่ามะกา ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างคณะสงฆ์ ที่ว่าการอำเภอท่ามะกา หัวหน้าส่วนราชการทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และไวยาวัจกรของอำเภอท่ามะกา
ระยะหลังนี้หน่วยงานต่าง ๆ ของทางราชการก็เห็นชัดเจนแล้วว่า ในส่วนที่ทำแล้วออกมาเป็นรูปธรรมที่สุดนั้นก็คืองานของคณะสงฆ์ จึงทำให้บรรดาข้าราชการระดับสูงในกระทรวง กำหนดลงมาเป็นนโยบายต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับงานของทางด้านคณะสงฆ์
อย่างเช่นว่าคณะสงฆ์มีโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ทางราชการก็มีโครงการหมู่บ้านยั่งยืน มีโครงการหมู่บ้านศีลธรรม เหล่านี้เป็นต้น จึงทำให้เกิดการประชุมร่วมกันเพื่อทำความเข้าใจ ในแนวทางการบริหารงานให้สอดคล้องกัน ทั้งทางส่วนของวัด บ้าน และหน่วยราชการ ซึ่งก็คือทฤษฎีบวร ที่สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้วางทฤษฎีนี้เอาไว้ ประกอบไปด้วย บ. คือ บ้าน - ว. คือ วัด - ร. คือ โรงเรียนและส่วนราชการ ซึ่งถ้าหากว่าสามารถประสานสามัคคีกันเข้าไปได้ โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ก็จะทำให้ชุมชนนั้น ๆ เข้มแข็งและมีความสุขมาก
โดยเฉพาะทางด้านเจ้าอาวาสวัดตะคร้ำเอน ที่กระผม/อาตมภาพเรียกท่านมาตั้งแต่ต้นว่า "หลวงพ่อโท" คือ พระครูวิสาลกาญจนกิจ ท่านเป็นรองเจ้าคณะอำเภอท่ามะกา ปีนี้ก็อายุกาลผ่านวัยถึง ๗๕ ปีแล้ว เวลาเดินทางไปไหนมาไหน ท่านจะถือไม้เท้าติดมือไปด้วยความไม่ประมาท เนื่องเพราะว่าคนอายุมาก อาจจะมีการเดินเซ หรือถ้าหากว่าลุกเร็ว ก็อาจจะมีการหน้ามืด ถือไม้เท้าติดตัวเอาไว้ย่อมสามารถที่จะช่วยงานได้ดีกว่า
โดยเฉพาะว่ากิจการงานคณะสงฆ์ ไม่ว่าจะใหญ่จะเล็กขนาดไหนก็ตาม หากต้องการใช้สถานที่ของทางวัดตะคร้ำเอนที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ท่านก็พร้อมที่จะจัดการทุกอย่างให้โดยเรียบร้อยสมบูรณ์ หรือถ้าหากทางด้านคณะสงฆ์อำเภออื่น ๆ ต้องการให้ท่านช่วยเหลือในการตั้งโรงทาน ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม หรือว่าอาหาร ตลอดจนกระทั่งช่วยเป็นปัจจัยเงินทอง ท่านก็พร้อมอย่างเต็มที่ พูดง่าย ๆ ว่า มีท่านอยู่ ก็เท่ากับเป็นแก้วสารพัดนึกนั่นเอง
นี่คือพระสงฆ์ที่เป็นสงฆ์อย่างแท้จริงรูปหนึ่ง เป็นผู้ที่ทำงานเพื่อคณะสงฆ์ ทำงานเพื่อวัด โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก ทั้ง ๆ ที่อายุก็อยู่ในระดับหลวงปู่หลวงตาแล้ว ยังวางแผนเอาไว้ว่าจะสร้างอุโบสถไม้ก่อนที่จะมรณภาพอีก ๑ หลัง กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่เอาใจช่วยว่า ท่านจะสามารถทำอุโบสถไม้สวย ๆ ทั้งหลัง เอาไว้เป็นผลงานสุดท้ายก่อนที่จะล่วงลับดับขันธ์ไป แต่ถ้าหากว่าท่านมีอันเป็นไปเสียก่อน ก็ขอให้เจ้าอาวาสรูปใหม่ที่มาแทน อย่าได้ลืมว่าท่านตั้งใจจะทำงานอะไร แล้วก็พยายามทำไปตามนั้นด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2023 เมื่อ 23:46
|