ดังนั้น..ในเรื่องของโลหะศาสตร์ คนโบราณก้าวหน้ากว่าเรามาก แค่ "เหล็กแข็ง เหล็กเหนียว" ในปัจจุบันนี้เราเองก็ทำไม่ได้แล้ว ท่านทั้งหลายลองไปดูปืนใหญ่หน้ากระทรวงกลาโหม ผ่านระยะเวลาตากแดดตากฝนมาเป็นร้อย ๆ ปี ก็ยังเขียวปลอด ไม่มีสนิมจับเลย หรือว่าเหล็กเหนียวอย่างที่เขาใช้หลอมดาบ ที่เรียกว่าเหล็กกำพล หลอมเป็นดาบหรือกระบี่แล้วสามารถที่จะเคียนเอวได้ ก็คือม้วนทำเป็นเข็มขัดได้..!
พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเจออยู่ครั้งหนึ่ง เป็นหัวหน้าโจรรายหนึ่ง ซึ่งพกดาบเล่มหนึ่งติดตัวอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่โดนปราบปรามเรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อท่านยึดดาบเล่มนั้นมา บอกว่าดาบนั้นอ่อนมาก สามารถที่จะจับปลายดาบกับด้ามดาบมาชนกันได้ แต่ดูเหมือนกันไม่มีคม เพียงแต่ว่าฟันลงไป สามารถตัดเหล็กได้..!
ดังนั้น..หลายต่อหลายเรื่องเราจะไปว่าโบราณล้าหลังเป็นไดโนเสาร์เต่าพันปี แต่ปัจจุบันนี้เราตามโบราณไม่ทัน เพราะว่าโบราณไม่ได้ใช้แค่กำลังกายและเครื่องมือ หากแต่ใช้กำลังใจ ก็คือเรื่องของฌานสมาบัติที่ฝึกฝนมาดีแล้ว ในการผสานศาสตร์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ซึ่งพวกเราอย่าเสียเวลาไปคิด แม้กระทั่งจะถามยังมีส่วนของความเป็นบ้า..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2023 เมื่อ 13:19
|