ถ้าเป็นอย่างพระเดชพระคุณหลวงปู่พระธรรมพุทธิมงคล หรือหลวงพ่อสะอิ้ง วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านสรุปง่าย ๆ ว่า "ป้องกัน แก้ไข สร้างสรรค์ รักษา"  
 
ป้องกันก็คือ ในเรื่องของการที่เราต้องระมัดระวังไม่ให้ความชั่วเข้ามาในใจของเรา ก็คือสังวรปธาน  
แก้ไข ก็คือพยายามที่จะขับไล่ความชั่วในใจของเราออกไป ก็คือปหานปธาน  
สร้างสรรค์ ก็คือการที่เราพยายามสร้างความดีให้เกิดขึ้นในใจของเรา ก็คือภาวนาปธาน 
รักษา ก็คือการที่เราระมัดระวัง ประคับประคองความดีนั้นให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ซึ่งก็คือในส่วนของอนุรักขนานุปธาน 
 
เพียงแต่ว่าหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีมากมายมหาศาล ทั้ง ๆ ที่พระองค์ตรัสว่าเป็นแค่ใบไม้กำมือเดียว..! พวกเราเองศึกษาแล้ว อย่าแค่จดจำเฉย ๆ พบเห็นอะไรในชีวิตประจำวัน ต้องยกเอาหลักธรรมที่เหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ ขึ้นมารับมือให้ถูกต้อง แล้วชีวิตของเราก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ ถ้ายกขึ้นมารับมือไม่ถูกต้อง ก็จะต้องพบกับความทุกข์ เพราะว่าแก้ไขปัญหาไม่ได้ 
 
ดังนั้น..นักศึกษาธรรมะมีมาก แต่ว่าส่วนใหญ่จะตกอยู่ในอาการ "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากำลังสมาธิไม่พอ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่าสมาธิในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นข้อกลางที่สำคัญที่สุด สมาธิทรงตัวก็จะมีสติตั้งมั่น รักษาศีลทุกสิกขาบทได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ สมาธิทรงตัวสภาพจิตก็สงบเยือกเย็น การพิจารณาสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราพบเห็น ก็จะว่องไว ทันเหตุการณ์ และสามารถแก้ไขจากร้ายให้เป็นดี หรือสามารถทำให้ดีอย่างเดียวโดยไม่มีร้ายได้ 
 
ดังนั้น..บางสำนักที่ไม่เอาสมาธิจึงเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก เนื่องเพราะว่าเท่ากับตัวเราขึ้นเวทีไปต่อสู้ โดยไม่มีอาวุธอะไรเลย ขณะที่คู่ต่อสู้ขนมาแทบจะเท่าคลังแสงรัสเซียที่ไปบุกยูเครน..!  
 แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า ถ้าหากว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้น สร้างบุญสร้างบารมีมาดี ก็จะพบกับสายธรรมหรือว่าครูบาอาจารย์ที่เหมาะสม หรือว่าปฏิบัติได้ถูกต้อง แต่ถ้าหากว่าสร้างบุญสร้างบารมีมาไม่ดี ก็อาจจะต้องหลงเปะปะไปสำนักโน้นบ้าง สำนักนี้บ้าง แต่หาความเจริญแก่ตัวเองไม่ได้ พวกเราต้องมองว่าตอนนี้เขาอยู่ในสายที่ไหลลงต่ำ อย่าไปตำหนิกัน เราอยู่ในสายที่ไหลขึ้นสูง ก็อย่าไปคิดว่าเราดีกว่า แต่ให้เพียรพยายามรักษาความดีของเราเอาไว้ แล้วทำให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป 
 
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา  และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ 
 
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน 
วันอาทิตย์ที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ 
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2023 เมื่อ 02:35
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |