ส่วนในสถานที่สำหรับจำพรรษานั้น ในก่อนหน้านี้ยังไม่มีวัดวาอารามเป็นหลักเป็นฐาน องค์สมเด็จพระภควันต์อนุญาตให้จำพรรษาในถ้ำบ้าง โคนไม้บ้าง บ้านร้างบ้าง ตลอดจนกระทั่งโพรงไม้ก็ได้ หรือว่าแม้แต่กองเกวียนที่เดินทางไปค้าขายต่างเมือง ก็สามารถอธิษฐานจำพรรษาได้
เนื่องเพราะว่า..พุทธศาสนิกชนที่เป็นพ่อค้านั้น เมื่อถึงเวลานำกองเกวียนไป สมมติว่า ๓๐๐ เล่มเกวียน อย่างน้อยก็ต้องมีคนคอยดูแลเกวียนดูแลสินค้า ๑ คนต่อ ๑ เล่มเกวียน มีคนคอยดูแลวัวที่เทียมเกวียน ๑ คน ถ้าหากว่า ๓๐๐ เล่มเกวียน ก็แปลว่า อย่างน้อยต้องมีบริวารติดตามไป ๖๐๐ คน
สาวกขององค์สมเด็จพระทศพลบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเหล่านี้ เมื่อต้องการที่จะทำบุญทำกุศล ก็ไม่ทราบว่าจะไปหาพระที่ไหน เพราะว่าบางทีสถานที่ไปก็เป็นบ้านใหม่เมืองใหม่ไม่คุ้นเคย จึงได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ที่คุ้นเคยของตนติดไปกับกองเกวียนด้วย
บางทีการค้าขายนั้นก็ไปกันทีหลายเดือนหรือว่าเป็นปี แบบเดียวกับเส้นทางการค้าขายของประเทศจีนแห่งหนึ่ง ก็คือ จากเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ขึ้นไปยังกรุงลาซาของทิเบต เส้นทางนี้บรรดาพ่อค้าจากทิเบตนำสินค้าลงมาค้าขายที่เฉิงตู ใช้เวลาเดินทางมา ๖ เดือน แล้วหาซื้อสินค้าที่เมืองเฉิงตูขนกลับไปที่เมืองลาซา ใช้เวลาอีก ๖ เดือน
ก็แปลว่า..คาราวานสินค้าสมัยก่อนใช้การเดินทางหลายเดือนหรือว่าเป็นปี ผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนาจึงนิมนต์พระติดขบวนไปด้วย ในเมื่ออยู่ในช่วงเข้าพรรษา จึงอนุญาตให้สามารถที่จะจำพรรษาในกองเกวียนได้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-08-2023 เมื่อ 10:38
|