"บัดนี้เรามีอาหารอยู่ และสมณะก็มาเยือนถึงกระท่อมของเรา" จึงจัดสำรับใส่ถาด ตั้งใจจะยกไปถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า พญามารเนรมิตหล่มเพลิงใหญ่ ขวางประตูกระท่อมไว้ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นหลุมไฟลุกช่วงโชติ ถ้าหากว่าก้าวลงไปเมื่อไรก็จะโดนเผา กลายเป็นจุณวิจุณไปในทันที..!
แต่ว่าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติที่เป็นพระโพธิสัตว์นั้น ทรงมีความยึดมั่นในบุญกุศล มีความแกล้วกล้าในการให้ทานเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งใจว่า "เราจักทำทานให้ได้ แม้ว่าถ้าก้าวออกไปแล้ว จะตกลงไปในหล่มเพลิง โดนไหม้เป็นจุณวิจุณไปเราก็ยินดี แต่ถ้ากุศลบุญราศีที่เราจักสร้างนี้มีอานุภาพมาก ก็ขอให้เราก้าวผ่านหล่มเพลิงนี้ไป ถวายภัตตาหารต่อพระคุณเจ้าได้"
ว่าแล้วก็ยกถาดภัตตาหารก้าวผ่านหล่มเพลิงออกไป ประดุจเดินบนพื้นดิน สามารถที่จะถวายภัตตาหารต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า อธิษฐานขอปรารถนาเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งในอนาคต องค์พระปัจเจกพุทธเจ้าให้พรว่า "เอวัง โหตุ" แปลว่า "ความปรารถนาของเธอจงสำเร็จเถิด"
นี่จึงเป็นตัวอย่างว่า บุคคลที่มีความยึดมั่นในบุญกุศล มีความแกล้วกล้าในการสร้างบุญกุศล แม้ต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยอม เพื่อให้สำเร็จซึ่งบุญกุศลนั้น ดังนั้น..พวกเราในวันนี้ ที่ตั้งหน้าตั้งตาตามประทีปกันกลางสายฝนเป็นที่สนุกสนาน ต้องบอกว่าพวกเรามีกำลังใจที่แกล้วกล้า และไม่ย่อท้อต่อบุญกุศลที่จะพึงได้เช่นกัน
การที่ฝนตกเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่ไม่อาจจะขวางกั้นบุญกุศลของพวกเราได้ กำลังใจของท่านทั้งหลายนี้ เปรียบไปแล้วก็คล้ายคลึงกับพระโพธิสัตว์ ซึ่งภายหลังอาศัยบุญกุศลนี้ บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เผยแผ่พระพุทธศาสนา ขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสารมากต่อมากด้วยกัน เราท่านทั้งหลายที่มีกำลังใจมั่นคงเช่นนี้ จึงเป็นบุคคลที่คู่ควรต่อมรรคต่อผลเช่นกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-08-2023 เมื่อ 02:34
|