วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๓๐ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ หลายวันนี้พวกเราตากฝนเปียกโชกกันอยู่ทุกวัน ถ้าว่ากันตามสำนวนชาวบ้านก็คือ "อยู่ใต้ฟ้า กลัวอะไรกับฝน" เพียงแต่ว่าหลายท่านไม่เคยชินกับความลำบากตรากตรำในลักษณะอย่างนี้ ก็ให้ฉันยาแก้แพ้แก้ไข้ล่วงหน้าเอาไว้เลย เพราะว่าอากาศบ้านเราเปลี่ยนไปค่อนข้างจะมาก
จากประสบการณ์ที่กระผม/อาตมภาพอยู่ทองผาภูมิมา ก็ถึง ๓๐ ปีแล้ว อากาศแบบช่วงปีสองปีนี้ยังไม่เคยพบมาก่อน ก็คือฝนตกแล้วก็มีลมหนาวมาด้วย ลักษณะอากาศแบบนี้เคยไปพบทางประเทศยุโรป ก็คือถึงเวลาฝนตกพร้อมกับลมหนาว ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่าป้ายรถเมล์บ้านเราเปิดโล่งแทบจะรอบทิศทาง ถ้าไม่ใช่จะติดป้ายโฆษณา ด้านหลังก็เปิดด้วย แต่ป้ายรถเมล์ในยุโรปปรากฏว่าปิดมิดชิด พอไปเจอฝนตกพร้อมกับลมหนาวก็ซาบซึ้งเลยว่า ถ้าไม่ปิดมีหวังหนาวตายกันหมด..!
อากาศที่เปลี่ยนแปลงจะว่าไปก็เป็นปกติธรรมดาของโลก แต่คราวนี้เป็นปกติธรรมดาที่ยาวนานเกินช่วงอายุของคน บางทีหลายชั่วอายุคนก็ยังไม่ได้พบ ก็เลยทำให้พวกเรารู้สึกว่าแปลก ก็คือสภาพภูมิอากาศในโลกของเรา มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่ตลอดเวลา สถานที่บางแห่งทะเลทรายขยายตัวขึ้น หรือว่าขั้วโลกเหนือ ขั้วโลกใต้ชั้นน้ำแข็งบางลง หดตัวเล็กลง มนุษย์เรามีอยู่อย่างเดียวก็คือต้องคล้อยตามธรรมชาติ
สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเล็กอยู่ บ้านเรือนผู้คนส่วนใหญ่แล้วปลูกบ้านใต้ถุนสูง พอถึงเวลาหน้าร้อนก็ทำงานอยู่ใต้ถุนบ้าน มีหลังคา มีพื้นเรือน กรองความร้อนสองชั้น พอถึงเวลาหน้าน้ำหลาก ก็ย้ายขึ้นชั้นบน เอาเรือลงจากคาน ถึงเวลาก็เดินทางด้วยการแจวเรือไป นั่นเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษของเราที่อยู่กันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า รู้ว่าถึงเวลาแล้วน้ำจะหลากมา
แล้วทุกคนก็อยากให้น้ำหลากด้วย เพราะอันดับแรกเลยก็คือเวลาน้ำหลากมา บรรดาโอชะหรือว่าปุ๋ยต่าง ๆ ก็มากับน้ำ โดยเฉพาะเกือบทุกบ้านจะขุดบ่อ เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง พอน้ำหลากมา ของแถมก็คือปลา จะลงไปตกคลั่กอยู่ในบ่อเอง เท่ากับว่ามีอาหารสำรองไว้กินได้ทั้งปี
แต่พอมีการส่งลูกหลานไปเรียนต่างประเทศ เห็นบ้านเมืองของต่างประเทศเขาแล้วสวยงาม ก็เอามาสร้างไว้ในบ้านเรา โดยที่ไม่ได้ดูบริบทหรือภูมิอากาศของเรา ว่าเหมาะสมกับบ้านเรือนชนิดนั้นหรือไม่ ? เมื่อสร้างขึ้นมาจึงทำให้ร้อนอบอ้าว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ๆ สร้างบ้านไม่ดูทิศทางแดด ทิศทางลมเลย
บ้านสมัยก่อนจะสร้างให้รับลมหน้าร้อน และหลบลมหน้าหนาว ก็แปลว่าหน้าต่างทุกบานจะไม่เปิดรับลมเหนือ เพราะว่าบ้านเราลมเหนือเป็นลมหนาว การสร้างตัวอาคารก็จะไม่สร้างขวางตะวัน เพราะว่าแดดจะร้อนทั้งเช้าทั้งบ่าย แต่จะสร้างในลักษณะตามตะวัน ก็คือหันข้างให้กับพระอาทิตย์ เช้าร้อนด้านหนึ่ง บ่ายร้อนด้านหนึ่ง พอที่จะบรรเทาไปได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-07-2023 เมื่อ 02:47
|