แล้วพวกเราก็เดินข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งมีวิหารอีกหนึ่งแห่ง ที่มีหินรองเท้าก่อนขึ้นบันไดเป็นรูปจันทร์ครึ่งเสี้ยว ที่ภาษาบาลีเรียกว่าอัฑฒจันทร์ คือพระจันทร์ครึ่งหนึ่ง มีลวดลายแกะสลักงดงามและใหญ่โตมาก ๆ มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะฝรั่งที่มากับมัคคุเทศก์กำลังฟังบรรยายอยู่หลายคน
เมื่อพวกเราชมและถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อย พร้อมกับฟังคำบรรยายจากคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) แล้ว ก็มาแวะที่ร้านจำหน่ายน้ำผลไม้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเสนอน้ำมะพร้าว แต่กระผม/อาตมภาพฉันน้ำมะพร้าวไม่ได้ เพราะว่าเย็นมาก จึงสั่งเป็นน้ำส้มเกลี้ยงแทน ทุกคนก็เลยสั่งน้ำส้มเกลี้ยงกันคนละ ๑ แก้ว ราคาแก้วละ ๒๐๐ รูปี ปรากฏว่ารสชาตินั้นเป็นที่ถูกอกถูกใจมาก เนื่องจากว่าเราสั่งแบบไม่สั่งน้ำตาล เป็นน้ำส้มเกลี้ยงล้วน ๆ
เมื่อกินกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ก็เดินทางไปยังชมสถานที่ต่อไป ที่เป็นโรงทานถวายภัตตาหารต่อพระภิกษุสงฆ์ในสมัยนั้น ซึ่งมีกันเป็นพันรูป เขาแกะสลักเป็นรางหินยาวและใหญ่มาก สามารถบรรจุภัตตาหารให้พระภิกษุนับพันรูปได้ โดยที่รางหนึ่งเป็นรางบรรจุข้าว ใหญ่กว่าอีกรางหนึ่งประมาณ ๕ เท่า รางเล็กกว่านั้นก็คือรางบรรจุกับข้าวหรือว่าแกง
เมื่อพระภิกษุรับภัตตาหารแล้ว ก็จะไปฉันกันภายในโรงฉัน ก็คงจะต้องนั่งเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องเพราะว่าดูสภาพแล้วว่า โรงฉันไม่ได้ใหญ่มาก ถึงขนาดจะบรรจุพระซึ่งนั่งตามใจกันได้เป็นพันรูป ถ้านั่งกันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยก็พอที่จะรับได้หมด
แล้วพวกเราก็เดินต่อไปยังสระน้ำอีกแห่งหนึ่งภายในเมืองโบราณนี้ เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลบอกว่าใหญ่กว่าสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกถึง ๖ เท่า บริเวณนี้มีลิงแสมอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วลมก็เย็นมาก ตามหลักการธาตุซึ่งหักล้างกันหนุนเสริมกัน โดยที่มีหลักว่าน้ำกำเนิดลม ก็คือมีน้ำที่ไหน เมื่อไอน้ำลอยขึ้น ลมก็จะไหลเข้ามาแทน
หลังจากนั้นพวกเราก็เดินทางต่อไป เพื่อกราบพระธาตุลังการามายะ พระธาตุถูปาราม แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของสถานที่ คือพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ ซึ่งเขาบูรณะจนเกือบจะสมบูรณ์แล้ว เว้นเอาไว้เพียงเล็กน้อยให้ดูว่าสภาพเดิมที่ปรักหักพังนั้นเป็นอย่างไร พวกเราเดินวนจนกระทั่งรอบพระสุวรรณมาลิกเจดีย์ หามุมสวย ๆ ถ่ายรูปกัน เทวดาฟ้าดินท่านก็เป็นใจ ช่วยให้ฟ้าเป็นสีฟ้าอย่างยิ่งเลยทีเดียว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2023 เมื่อ 05:38
|