ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 17-07-2023, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,416,967 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ในห้องพักโรงแรม Rajarata หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่าราชรัตน์ เมืองอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา ซึ่งเมื่อครู่นี้ได้ดูพยากรณ์อากาศแล้วระบุไว้ว่า มีฝนฟ้าคะนองรุนแรงทั้งวันอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อวานนี้คำพยากรณ์ก็พลาดไปครั้งหนึ่งแล้ว

เนื่องเพราะว่าเจ้าที่เจ้าทางเทวดาฟ้าดินทั้งหลายท่านเมตตาจะให้พวกเราแสวงบุญอย่างเต็มที่ อากาศจึงแจ่มใส ถ่ายรูปแล้วท้องฟ้าสวยงามมาก เพียงแต่ว่า "หม่าม้า" (คุณไพรินทร์ สุวิชชาญพันธุ์) บอกว่า "หลวงพ่อดูพยากรณ์อากาศที่โรงแรมเมืองโคลัมโบ ตอนนี้เราอยู่ที่เมืองอนุราธปุระ จึงอาจจะผิดพลาดได้"

โรงแรม Rajarata นี้ ห้องพักรู้สึกว่าเกินความจำเป็นไปมาก เพราะว่ามีถึงสามที่นอนด้วยกัน เพียงแต่ว่าเตียงนอนนั้นไม่ค่อยที่จะเหมาะกับคนซุ่มซ่ามอย่างกระผม/อาตมภาพ เพราะว่าเตียงใหญ่เกินกว่าที่นอน ด้วยความเคยชินของพวกเราก็คือ เมื่อยืนชิดเตียงก็หย่อนก้นลงนั่งได้เลย แต่เมื่ออยู่ที่โรงแรมนี้ ถ้าหากว่าเราเดินมาชิดเตียงแล้วจะนั่งลง จะเตะเอาเตียงข้างล่างที่ล้นออกมาเกินที่นอนเสียก่อน ถ้าคนไม่ระมัดระวังก็อาจจะถึงกับสะดุดล้มได้..!

แต่ว่าข้าวปลาอาหารนั้นมีให้เหลือเฟือ ซ้ำยังมีมื้อค่ำให้อีกต่างหาก เพียงแต่ว่าคณะของเราจะมีใครลงไปรับประทานอาหารค่ำหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? เนื่องเพราะว่าเมื่อวานนี้เดินกันจนหมดสภาพ จนรู้สึกว่าเท้าจะหลุดออกไปจากตัว..!

เนื่องเพราะว่าตั้งแต่หลังมื้ออาหารกลางวัน คุณอสังคะก็พาพวกเราตรงเข้าไปในเขตเมืองโบราณอนุราธปุระ แล้วก็ไปจอดที่สำนักงานบูรณะเมืองโบราณ ซื้อตั๋วให้พวกเราเข้าไปชมทางด้านใน เพียงแต่ว่างานนี้กระผม/อาตมภาพมาด้วยบัตรเบ่ง ก็คือเขาให้พระเข้าฟรี

ต้องขออนุโมทนากับเจ้าหน้าที่ของประเทศศรีลังกาทุกท่าน ที่ยังเมตตาว่าสถานที่นี้ก็คือสถานที่อันยิ่งใหญ่ในพระพุทธศาสนาของประเทศศรีลังกา ดังนั้น..พระภิกษุสามเณรจึงเข้าชมได้ฟรี ตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็คิดว่าจะเดินกันไหวหรือ ? แต่ปรากฏว่าทางประเทศศรีลังกาอนุญาตให้นำรถวิ่งเข้าไปได้ รถของเราจึงวิ่งผ่านซากโบราณสถานปรักหักพัง ซึ่งทำให้รู้สึกสะท้อนใจว่า สรรพสิ่งนั้นหาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้เลย

พวกเราเข้าไปกราบสักการะพระมหาเจดีย์วัดเชตวันวิหารเป็นแห่งแรก ด้วยความที่เกรงใจชาวพุทธศรีลังกาทุกท่าน ซึ่งไม่ว่าจะเข้าไปในวัดใหม่ หรือว่าวัดโบราณ ไม่มีพระภิกษุสงฆ์อยู่ก็ตาม ทุกคนจะแต่งชุดขาว แต่ของพวกเรานั้นมากันตามใจชอบ จึงได้แต่เลาะอยู่ชายขอบ ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ตรงไปสถานที่ต่อไป ก็คือสระน้ำคู่ของวัดเชตวันมหาวิหาร ซึ่งสมบูรณ์มาก ๆ จนแทบจะเหมือนอย่างกับในสมัยหลายร้อยปีก่อนนั้นเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-07-2023 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา