พระอาจารย์ถามว่า "พวกเราที่อ่านพระไตรปิฎกกันมาบ้าง ได้ฟังเนื้อหาเรื่องราวมาบ้าง ใครสามารถวิเคราะห์ได้บ้างว่า พระฉันนะ ท่านตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ?"
ถาม : ตัวใหญ่
ตอบ : เนื่องจาก ?
ถาม : เนื่องจากพระฉันนะบอกว่า จะอุ้มม้ากัณฐกะและเจ้าชายสิทธัตถะข้ามกำแพงไป
ตอบ : อันนั้นก็มีส่วน ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ นายฉันนะมหาดเล็กตั้งใจว่า ถ้าประตูเมืองปิด เขาจะแบกม้ากัณฐกะพร้อมกับพระลูกเจ้ากระโดดข้ามกำแพงไป
ประการที่สองก็คือว่า หลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว คณะสงฆ์ต้องไปแจ้งข่าวกับนายฉันนะว่า พระพุทธเจ้าสั่งลงพรหมทัณฑ์ พระอานนท์เป็นผู้ไปแจ้ง ยังต้องขอการอารักขาจากหมู่สงฆ์จึงกล้าไป
ประการที่สาม อันนี้วิเคราะห์จากสภาพแวดล้อมว่า นายฉันนะเป็นมหาดเล็กคนสนิท จะว่าไปก็คือองครักษ์ เขาต้องคัดประเภทสุดยอดมาเลย
ถาม : ตัวก็ต้องใหญ่มากนะคะ
ตอบ : ก็ต้องพิเศษหน่อย ประเภทคนอื่นเห็นแล้วต้องคิดไว้ก่อนว่า ถ้าลงมือแล้วจะคุ้มไหม ?
พระฉันนะพอบวชเข้าไปแล้วไม่มีใครสอนท่านได้ ครูบาอาจารย์ท่านไหนว่า พระฉันนะไม่ฟังทั้งนั้น ท่านใช้คำพูดที่ถอดออกมาเป็นไทยว่า "พระลูกเจ้ายังไม่กล้าว่าอะไรผม แล้วท่านเป็นใคร" ก็เลยกลายเป็นตัวป่วนอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ก็ตรัสกับพระอานนท์ว่า ให้สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์กับฉันนะ พระอานนท์ก็ถามว่า "พรหมทัณฑ์ลงอย่างไร ?" ท่านบอกว่า "ไม่ร่วมกิน ไม่ร่วมนอน ไม่ร่วมสังฆกรรม ไม่พูดคุยด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-02-2011 เมื่อ 19:07
|