ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 28-06-2023, 01:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,429 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ถ้าหากว่าเราเป็นคนรวยแต่ไร้ปัญญา ก็มีสิทธิ์ที่ทรัพย์สมบัติจะสูญสิ้นไปได้ อย่างสมัยนี้โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกกันเป็นว่าเล่น ถ้าหากว่าเราร่ำรวยแต่หน้าตาไม่เอาไหน คนจะแต่งงานด้วยก็คงต้องคิดแล้วคิดอีก แต่หน้าตาเฮงซวยด้วยแถมจนอีกต่างหาก ก็คงจะหมาไม่แลเหมือนกัน..!

ก็แปลว่าเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ควรที่จะกระทำในลักษณะประกันความเสี่ยง ก็คือทำให้ครบทุกอย่างไปเลย แปลว่าเรามีโอกาสให้ทาน เราก็ให้ทาน ในระหว่างนั้น เราก็รักษาศีลให้เป็นปกติ เจริญภาวนาเอาไว้ให้สม่ำเสมอ มีโอกาสก็ช่วยเหลือขวนขวายงานบุญคนอื่น แม้กระทั่งเรื่องของการทำความสะอาดสถานที่ ปัดกวาดลานวัด ก็จัดเป็นเวยยาวัจมัยทั้งหมด

หรือว่าเมื่อสร้างบุญสร้างกุศลแล้วก็อุทิศให้กับคนอื่น เห็นคนอื่นทำบุญทำกุศล ก็พลอยยินดีไปด้วย รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้อื่น ตลอดจนกระทั่งมีความเห็นเป็นสัมมาทิฏฐิ เหล่านี้เป็นต้น

อีกส่วนหนึ่งนั้นต้องการความรู้ที่แท้จริง ก็คือธัมมัสสวนมัย ฟังธรรมแล้วน้อมนำไปปฏิบัติ ทำให้เกิดผลดีทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจของเรา เมื่อปฏิบัติเกิดผลแล้ว ถึงจะสามารถแสดงธัมมเทสนามัย บุญที่เกิดจากการเทศน์สอนคนอื่น ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง เราก็ยังไม่รู้ว่าจะสอนคนอื่นให้เดินถูกทางหรือเปล่า ? จะกลายเป็น "แม่ปูสอนลูกปู" หรือเปล่า ? เดินเท่าไรก็มีแต่คดไม่มีทางตรง เหล่านั้นเป็นต้น

ดังนั้น..ในเรื่องของบุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการ จึงเป็นเรื่องที่เรามีโอกาสทำได้ทั้งวัน ทำได้ทุกวัน ไม่ใช่ต้องรอไปเปิดบ้านรับสังฆทานแล้วค่อยทำ ปล่อยให้บุญตัวเองขาดช่วงลง แบบนั้นถ้าเป็นฆราวาส ชีวิตก็โดนกรรมสนอง ต้องลำบากเดือดร้อน เป็นพระภิกษุสามเณร แม่ชี ก็โดนกิเลสรุมตี รุมกระหน่ำ เดี๋ยวก็ไม่สามารถที่จะอยู่ในกรอบของศีลของตนได้ ต้องสึกหาลาเพศไปเพราะความประมาทของตนเอง

จึงเป็นเรื่องที่เราทั้งหลายจะต้องตระหนักและปฏิบัติให้เป็นปกติ ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ไปบ่นให้ใครฟังก็คงจะมีแต่คนสมน้ำหน้าเรา..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-06-2023 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา