แต่ว่าอันดับสองนั้นกลับเป็นหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งถ้าหากว่าใครติดตามประวัติหลวงพ่อกวยก็ดี หรือว่าติดตามในสิ่งที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกกล่าวก็ตาม ท่านทั้งหลายก็จะเห็นว่า หลวงพ่อกวยนั้นรักลูกศิษย์โดยที่ไม่รักที่ชัง จะเป็นคนดีหรือว่าไม่ดีในสายตาของใคร ถ้าเคารพนับถือท่านแล้ว หลวงพ่อกวยท่านยินดีสงเคราะห์ทั้งหมด..!
ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นเมตตาแบบอัปปมัญญา ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง แล้วสิ่งที่ท่านสงเคราะห์ก็มักจะเห็นผลทันตา จึงทำให้บุคคลที่มีโอกาสเลือกรูป หรือว่าเหรียญพระเกจิอาจารย์ หลวงปู่หลวงพ่อที่ตนเคารพนับถือ ได้เลือกหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ซึ่งทางวงการพระเครื่องถือว่าเป็นพระอาจารย์รุ่นใหม่หลัง พ.ศ. ๒๕๐๐
ส่วนลำดับต่อ ๆ ไป นั้นก็คือหลวงพ่อโต วัดระฆัง หรือว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ซึ่งตรงนี้ ถ้าหากว่าเราท่านทั้งหลายศึกษาประวัติของท่านมาก็จะเห็นว่า ในปัจจุบันนี้พระของท่านราคาแพงจนจับไม่ติดแล้ว พระสมเด็จวัดระฆังองค์สวย ๆ ตอนนี้มีคนสู้ราคาถึง ๑๐๐ ล้านบาท..! ต่อให้เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหมหรือว่าพระสมเด็จวัดเกศไชโยที่ท่านสร้าง ก็ยังมีคนสู้ราคาเป็นล้าน ๆ แต่ว่าท่านที่ร่วมกันลงคะแนน คงจะเห็นว่าในเมื่อให้เลือกได้ แปลว่าต้องมีของอยู่ในมือ จึงเลือกเอาหลวงพ่อโต วัดระฆัง มาด้วย
ลำดับต่อไปก็คือหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นอมตเถราจารย์ที่ผู้คนรู้จักกันทั้งบ้านทั้งเมือง จากท่านั่งอันเป็นเอกลักษณ์และวาจาโบราณ ซึ่งกระผม/อาตมภาพที่เคยไปกราบทำบุญกับท่าน ขอบอกว่า "ท่านเป็นพระที่พูดกูมึงได้เพราะที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา" เพราะว่าทุกคำออกจากใจอย่างแท้จริง
ลำดับถัดไปก็คือหลวงพ่อรวย วัดตะโก นี่ก็ถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นใหม่ ใหม่กว่าหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามเสียอีก แต่ด้วยความที่นอกจากชื่อท่านจะเป็นมหามงคลแล้ว รูปเหรียญของท่านที่ลูกศิษย์นำไปใช้ ยังมีประสบการณ์ช่วยให้ลาภผลเงินทองไหลมาเทมาจริง ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-06-2023 เมื่อ 01:51
|